Sep 5, 2008
-- To my new Journey --
จากการเดินทางของ Sand Journey ที่แสนยาวไกล
มาเกือบสามปี จากนี้ไป ถึงเวลาแห่งการเริ่มต้น
การเดินทางอีกแบบนึง ณ สถานที่ที่ไม่คุ้นเคยมาก่อน
ผู้คน สิ่งแวดล้อม เพื่อนใหม่
ที่อยู่ใหม่ และสถานะใหม่ของการเป็นนักศึกษา
อีกปีกว่าๆ ต่อจากนี้ไป
ก็คือ กรุงเบอร์ลิน ............
ที่แรกในยุโรป ทวีปที่ใฝ่ฝันจะมาเยือน นานกว่าสิบปี ...
บล็อกนี้คงจบไว้ที่เรื่องราวในเมืองไทย แต่เพียงเท่านี้
ขอเชิญติดตามเรื่องราวใหม่ๆ ณ ดินแดนใหม่ๆ
ที่ Sand : Journey to the West
จนกว่าเราจะพบกันอีก .........
-- Hua Hin in love --
เส้นทางขับรถไปต่างจังหวัดที่ชำนาญที่สุด ก็คงจะเป็นคำตอบเดียวกันกับข้างบน
คราวนี้ไปกับญาติพี่น้องอีกเกือบยี่สิบชีวิต อัดแน่นอยู่ในคอนโดหน้าตาไฮโซ (ของคนอื่น) ฮ่าฮ่า
ตามขนบของครอบครัวแนวอนุรักษ์นิยม กิจกรรมรอบนี้ก็หนีไม่พ้น กินอาหารทะเล เดินตลาด กินโจ๊ก และปิดท้ายด้วยกิจกรรมบันเทิงแบบการลงทุนระยะสั้น....
คืนแรก ร้านแสงไทย ...... ร้างราจากปูม้าขาวๆ สวยสดน่าเจี๊ยะ มานาน อู้หลั่นล้า เวลาได้กินปูม้าที่สดๆ โลกนี้มันช่างสดใสจริงๆ ......
ระดับความอร่อย ... อร่อยเลิศ
คืนสองวันอาทิตย์ ณ ร้านอาหารปลาทู ณ ริมทะเล.....
ระดับความอร่อย ก็...ปกติ
แต่ทว่า
ค่ำคืนนี้ นอกจากอาหารทะเลอร่อยๆ ริมทะเลแล้ว
ยังได้อาหารลิ้น และอาหารหู แถมมาด้วย
ในหาดกว้างๆ ติดกัน มีงานแต่งงานกลางหาดทรายกว้างๆ
ที่มาพร้อมบรรยากาศลมเย็นๆ ของทะเลหน้าฝน
เคล้าเสียงคลื่นและเสียงเพลง....
(กรี๊ด......)
งานนี้ปิดท้ายด้วยโคมลอย... ให้บรรดาแขกเหรื่อ
ช่วยกันจุดไฟริมหาดกันคนละไม้คนละมือ .....
มีเรื่องให้หวาดเสียวกันเป็นระยะ
เริ่มจากโคมแรก.... ลอยไปได้สิบวิ ก็หลุ่นตุ๊บลงทะเลไป หลังจากนั้นอีกสองสามโคม
ก็พบ อุปสรรคบางประการของการเผาไหม้เชื้อเพลิง ทำให้โคมสวยๆ
ที่มีไฟแผดเผา หล่นไปอยู่บนเรือประมงที่จอดอยู่แถวๆ นั้น ....
ตายสิคะ ไอ้เราก็อยู่ใกล้ๆ ไม่ห่างจากเรือลำนั้นเท่าไหร่
วันนี้จะรอดชีวิตกลับบ้านมั้ยเนี่ย โชคดีที่มีหนุ่มใจกล้าฝ่าน้ำ
ว่ายลงทะเลไปดับไฟได้ทัน (ถ้าโดนถังน้ำมัน มีสิทธิ์ระเบิดได้นะเนี่ย โอ้ว)
แม้จะมีเหตุการณ์หฤหรรษ์ให้หัวใจหยุดเต้นไปบ้าง แต่พอมองไปบนฟ้าแล้ว
โคมลอยหลายสิบใบ ที่ลอยขึ้นฟ้ากลางทะเลสีดำ ยิ่งลอยไปไกลก็เหมือนดาวดวงน้อยๆ
หลายๆ ดวง ทอแสงบนฟ้ากลางคืนเดือนมืด...
.... สวย..... จังเลย......
เพ้อฝันมากพอละ....ตื่นๆๆๆ
เมื่อช่วงโรแมนติค (ของคนอื่น) ผ่านพ้นไป
ก็เป็นช่วงเวลาแห่งการอุปโภคและบริโภค ในตลาดหัวหิน
... ค่ำวันอาทิตย์ผู้คนบางตา อากาศเป็นใจ ชอปปิ้งได้อย่างเพลิดเพลินใจ...
แล้วเช้าวันจันทร์ก็มาถึง
วันจันทร์ .... วันเริ่มต้นแห่งสัปดาห์ กับหาดทรายเงียบๆ คลื่นเหงาๆ
แค่ได้สูดอากาศสดๆ แบบนี้ ..... ก็ไม่อยากไปไหนแล้ว...
ดื่มด่ำอารมณ์วันหยุดจนหมดแก้วแล้ว
ในที่สุด .... ก็ได้เวลากลับบ้าน....
ช่วงเส้นทางที่ขับกลับบ้านแล้วอารมณ์ดีมากสุด
คงเป็นระยะที่สองข้างทาง มีต้นยางยักษ์ใหญ่ขึ้นสูงสองข้างทาง ...
อันเป็นสัญลักษณ์ที่เตือนคนภาคอื่นๆ ที่เดินทางผ่านมาว่า กำลังเข้าเขต หรือออกจากเขตภาคใต้แล้วนะ
เวลาขับผ่านทีไรให้ความรู้สึกแบบ “ฉันตัวเล็กจัง”
แล้วก็รู้สึกมั่นคงยังไงบอกไม่ถูก (บรรทัดนี้อ่านแล้วใครงงก็ขออภัย แต่มันรู้สึกแบบนี้จริงๆ )
หลายปีก่อน เราว่ามันมีเยอะกว่านี้มาก
...หากแต่หลังๆ มานี้ คาดว่าเป็นเพราะถนนที่กำลังขยายเส้นทาง
จึงทำให้จำนวนต้นยางที่เคยยาวเป็นทิวแถวยาวลดน้อยลงไป.... เสียดายจัง
อีกเรื่องก็คงเป็นเรื่องธง
ที่สองสามปีหลังๆ มานี่ กิจการการทำธง การทำเสื้อทำกำไรให้เจ้าของกิจการอย่างมหาศาล
ทั้งธงเหลือง ธงชาติที่มีมากมายเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด
สมัยเด็กๆ ทุกครั้งที่เห็น “ธง” เราจะรู้สึกถึง สัญลักษณ์แห่งความหมายสำคัญบางอย่าง
สมัยนี้ปัก “ธง” กันกลาดเกลื่อนเต็มไปหมดทั้งสองข้างทาง ไม่ว่าจะทางเล็กทางน้อย ทางหลวง หรือทางด่วน
มองซ้ายมองขวาก็เจอ บางธงเปลี่ยนเป็นสีดำ สกปรกไปหมด
ของบางอย่าง แม้จะ(ทำเป็น)แสดงออก ว่ามีมากมาย .... แต่ถ้าไม่ให้ความสำคัญ ไม่ดูแลอย่างจริงจัง
ก็อาจทำให้คุณค่าของสิ่งนั้นๆ เสื่อมลงได้
ปริมาณ สำคัญกว่า คุณภาพ จริงหรือ ? ..................................
Jul 31, 2008
-- ในรอยทราย --
มีค่าพอสำหรับความทรงจำ
ไยดวงดาวจึงหายวับลับฟ้า
ทุกคราที่แสงอาทิตย์พ้นขอบทะเล
หากผืนทราย
มีค่าพอสำหรับความทรงจำ
ไยทะเลจึงโหมชะรอยทราย
ในทุกเกลียวคลื่นจนรอยจางไป
หากเวลามีค่าพอ
สำหรับบางสิ่ง....
ไยคนเราถึงเมินเฉย.....
เพื่อบางอย่างที่ยังมองไม่เห็น ...
Book :
- เมดอิน เยอรมนี (สีมน)
- สูงต่ำล้วนผ่านตา (ปราย พันแสง)
คุณปรายคะ แม้ว่าเราจะไม่รู้จักกัน
อยากบอกว่าหนังสือของคุณเป็นยิ่กว่าเพื่อน .... ไม่มีเล่มไหนเลย
ที่ใช้เวลาเกินสองกหชั่วโมงในการอ่าน .....
และสองชั่วโมงนั้น เป็นห้วงเวลาแห่งความเพลิน
ที่อ่านแล้วไม่อยากให้หมดเล่ม....
ในเสี้ยวเวลาที่อยู่คนเดียว
แค่ได้หนังสือของคุณ
ก็ไม่ต้องการอะไรแล้วค่ะ ....
Movie : Tokyo Tower
「東京タワー」より、
あしたあなたが離れても、愛してる。
それは私には分かりません。 どうして??
Jul 29, 2008
-- Mind(un)fulness --
ภาษาเยอรมันก็จะปิดคอร์สแรกแล้ว
ตอนนี้ที่ทำได้คือสั่งอาหารกิน
(เย้ ไม่อดตายแล้วว)
เวลาผ่านไปเร็วเหลือเกิน
เหลือเรียนภาษาอีกคอร์สนึง
แล้วก็ขึ้นเครื่องบินไปเรียนแล้ว....
ตลอดหกปีที่ผ่านมา
นับตั้งแต่ หกเดือนใน Wakayama
และอีกห้าปีที่วนเวียนในแถบ
เอเชียและแปซิฟิค
Tokyo Osaka Narita Nagoya
Fukuoka Honolulu Brisbane Sydney
Guam Bali Manila Singapore
Hong Kong Hiroshima Beijing....
จากนี้ไปอีกเกือบสองปี
คงได้วนเวียนอยู่ในดินแดนคนหัวทอง....
ที่ผ่านมาไม่มีปีไหนที่เด็กหัวดำคนนี้
ไม่ได้เดินทางไปต่างบ้านต่างเมือง
รอบนี้ไปแล้วคงไปนาน
และอาจได้ไปหลายบ้านและหลายเมือง
ไม่ได้อยู่ใกล้พ่อแม่น้องและหมาๆ
ทำลายสถิตินานสุดแล้วในชีวิต.......
ดูเหมือนทำเป็นเก่ง
เอาเข้าจริงก็ใจหาย
เกิดอาการขาสั่นใจสั่น
กลัวนู่นกลัวนี่ไปหมด
การจากลาความเคยชิน
สิ่งต่างๆ รอบตัวที่คุ้นหูคุ้นตา
ภาษาที่คุ้นเคย
ไปอยู่ที่ๆ ดูทีวีไม่รู้เรื่อง
อ่านหนังสือไม่ออก
ตอนจะไปนี่มันก็หวิวๆ แฮะ.......
ปีนี้...ขวบปีแห่งเบญจเพส
สำหรับเรา...
เหมือนจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น
...... แต่ก็นับได้ว่า
เป็นปีที่เจอมันหมดทุกๆ เรื่องสำคัญๆ ในชีวิต
การงาน ความรัก การเรียน ครอบครัว
ทำเอาจิตและกายแกว่งไปหลายองศา
ยิ่งกว่าไวกิ้งใน Six Flags อีก -_-'
จากที่เคย(คิดว่า)เป็นคน
มองโลกในแง่ดีมาตลอด
อยู่ๆ พอเจออะไรมากๆ เข้า
ก็กลายไปยืนฝั่งตรงข้าม
เห็นอะไรก็เป็นเรื่องแย่ไปหมด
ไม่รู้จะคิดมากอะไรกันนักหนา
แต่แท้ที่จริง
จะไปโทษอะไรกับคุณเบญจเพส
ที่ไม่มีแม้แต่ตัวตนบนโลกใบนี้
สาเหตุเดียวของทุกปัญหาก็คือ
"ตัวเอง"
.........
อืมม....
จิตตกมาพอละ หยุดดีกว่า
เดี๋ยวจะไม่ได้ไปเรียนกันพอดี
เพราะโดนจับเข้าโรงพยาบาลบ้า (hahaha)
ว่าแล้วก็หาอะไรทำ....
เตรียมจัดกระเป๋าพกยาไปเบอร์ลินดีกว่า
ยาแก้จิตว่าง
- Notebook & Game
- iPod Classic 80 GB
โกยเพลงลงไอ้ป๊อดไปแก้เหงาเกือบ 40 GB
- Grey's Anatomy III
- Desperate Housewife Season IV
- Lost (เรื่องนี้ยังไม่แน่ใจ ขนไปดูคนเดียวอาจจะเครียดกว่าเก่า)
ยาแก้จิตตก
- Life is Beautiful
- Gibli Studio all movies
- วิชาตัวเบา
- ตัวกู ของกู
- Understand our mind
- Sudoku
หลังจากทำการทดลองมาหลายรอบ
สุดท้าย ก็ได้รู้ว่า
ยาแก้จิตตกที่ดีที่สุด
คือ การได้เขียนไดอารี่
หรือการได้อัพเดทบล็อก [^_^]
ป.ล ระหว่างนี้ขอเรียนเชิญ...
ไปหาของกินอร่อยๆ ที่
The Sand Dish
Jul 9, 2008
-- Sprachen Sie Deutsch ? --
Hallo !!!
Guten Tag !
Wie geht es Ihnen ?
Meine Name ist Susanne.
Ich bin funfundzwanzig Jahre alt.
Ich bin ledig. Ich habe keine Kinder.
Ich komme aus Thailand, aus Bangkok.
Ich bin
Und ich sprache Thailandisch, Englisch, franzosich und ein bisschen Deutsch.
Im moment, meine familie lebt in Bangkok, Thailand.
Tschus
ผ่านไปห้าวันกับการร่ำเรียนภาษาเยอรมัน
ก็ได้มาเท่าที่เห็น ฉันคือใคร มาจากไหน ฯลฯ
เขียนประโยคติดกันเป็นเด็กอนุบาลเลย
แล้วก็ได้ชื่อใหม่จากอาจารย์ว่า Susanne .....
สนุกสนานครื้นเครงทุกชั่วโมง เพราะได้อาจารย์ชาวเยอรมัน
ที่อารมณ์ดี พูดภาษาไทยได้หลากหลาย
เพื่อนๆ ในคลาสก็มีมากมาย ข้างซ้ายขวา
ก็เป็นน้องๆ ม.ปลาย คนนึงเป็นเด็กเกาหลี
ที่พูดอังกฤษชัดกว่าคนอเมริกัน
อีกฝั่งก็เป็นเด็ก(ที่กำลังจะไป) AFS
เลยโชคดีได้ฝึกสปีกกิ้งภาษาอังกฤษก่อน
ไปเรียนด้วยเลย
แล้วโลกก็กล๊มกลม มาเจอพี่ปุ้มรุ่นพี่ที่เซนต์ฟรัง
ซึ่งต่อมากลายมาเป็นเด็กถาปัดจุฬาฯ รุ่นเดียวกับเรา
(แต่คนละคณะ)
ที่เหลือในคลาสก็มีทั้งคนที่กำลังจะไปทำงานที่โน่น
คนที่กำลังจะไปต่อโท และคนที่กำลังจะแต่งงาน
บรรยากาศที่หลากหลายมากมาย ก็ช่วยทำให้ฮึกเหิม
มีพลังเรียนซะงั้น
ตอนมาสมัครเรียนทีเกอเธ่ครั้งแรก นึกว่ามาผิดที่
หน้าตาอาคารเรียนเหมือนอยู่ในสปา
อาคารทรงยุโรปโบราณๆ โปร่งๆ ต้นไม่้ครึ้มๆ
ก็ชอบมากกว่าตึกเรียนใน Alliance Francaise ซะแล้ว
หนังสือเรียนสีสันสดใส สื่อการสอน ก็เยอะแยะน่าใช้
อืมมม บรรยายไม่หมดแฮะ แล้วก็ละเว้นจากการเรียนภาษามานาน
จนลืมไปว่าตอนเริ่มเรียนภาษาใหม่ๆ นั้นมันสนุกขนาดไหน
แต่พอเรียนมากๆ เข้าชักยากแฮะ
ภาษาเยอรมันสำหรับเรา (ณ ตอนนี้) เป็นภาษาที่ทำให้
มึนหัวได้ง่ายกว่าหลายๆ ภาษา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ถ้าเรียนฝรั่งเศสมาก่อน แบบที่ท่องคำสรรพนาม
Je Tu Il Elle Nous Vous Ils Elles
แล้วต่องมาเรียงใหม่เป็น
ich du er/es/sie wir ihr sie/Sie
แค่เจ๊ Sie ตัวเดียว ก็ปาไปสามความหมาย
พอจะผัน Verb ก็มึนใหญ่เลย
ก็ยังโชคดีที่เพิ่งอยู่ในบทแรกๆ
ไวยากรณ์ยังไม่ถาโถมเข้ามาเท่าไหร่นัก
แต่ถ้าเป็นเรื่องคำศัพท์
เหอะๆ แต่ละคำทำไมมันยาวๆ อย่างนี้ล่ะเนี่ย
แล้วก็ที่มีฮามากสุดก็ นามสามเพศเนี่ยแหละ
ใช้ผิดใช้ถูกเป็นกิจวัตร
ตื่นตีห้าไปเรียนทุกวันได้ไม่นาน ก็คงจะ
เหลือเวลาเรียนอีกเดือนกว่าๆ ก็จะต้องบินแล้ว
เริ่มจะตื่นเต้นแล้วแฮะ
ไปใช้ชีวิตในต่างแดน โดยที่พูดภาษาเจ้าของถิ่น
(แทบจะ)ไม่ได้เลยเนี่ย น่าสะพรึงไม่น้อย
อย่างตอนที่ไปอยู่ญี่ปุ่นพักกับแฟมิลี่
ตอนนั้นก็ร่ำเรียนมาตั้งสามปีกว่าแล้ว
ก่อนไปก็ไม่ได้หวาดหวั่นอะไร
แม้กระนั้น พอไปถึงที่ ที่ไหนได้ ภาษาถิ่นคันไซ
ปลิวว่อน เอ๋อ ไปนาน
ไว้จะเอารูปถ่ายที่เกอเธ่มาแปะให้ดูแล้วกันเนาะ
วันนี้ขอเม้าท์แต่เพียงเท่านี้
Gute Nacht [^_^]
ป.ล ขอบคุณแป้งจี่สำหรับคำแนะนำที่ให้
อ่านประวัติศาสตร์ การเมือง เศรษฐกิจบ้านเราไปเยอะๆ
เพราะคนที่โน่น ถามคนไทยแต่เรื่องพวกนี้
อืมมมม ...... เริ่มจะมึนแล้วแฮะ
Book :
- 30 วัน ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา เปิดโลกหนังสือในอังกฤษ
- EUROPE : DK Eyewitness Travel Guides (thanks a lot Phil)
- วันแรกของวันที่เหลือ (วินทร์ เลียววาริณ) อ่านอีกครั้งในรอบสิบปี เอ๊ะ เหมือนๆ เนื้อหามันเปลี่ยนไปอัตโนมัติ
ลองคลิกเข้าไปดูนะ
พอเห็นปุ๊บ ก็ขอบอกเลยว่าเป็นโรงเรียนในฝัน
ที่หามานานแล้ว ถ้าชาตินี้โชคดีได้มีลูก
ก็อยากให้ได้เรียนที่นีแหละ (เพราะแม่ชอบ ฮ่าฮ่า)
เป็นไงล่ะ หาโรงเรียนให้ลูกตั้งแต่
ยังไม่มีสามีเลย หุหุ
Song : そばにいるね (青山Thelma)
(Soba ni iru ne)