ดูหนังเกาหลีเรื่อง My Girl & I
ตอนแรกคิดว่าเป็นหนังตลกรักโรแมนติคธรรมดาๆ
เหมือน My Sassy Girl ไปๆมา
กลับทำเขื่อนน้ำตาแตกกระจาย
ก่อนหน้านี้เรื่อง The Classic เป็นหนังที่เรียกน้ำตา
ได้มากที่สุดเท่าที่เคยดูมา ผ่านมาสามปีกว่า
ยังไม่มีเรื่องไหนทำลายสถิติได้
จนกระทั่งได้มาดูเรื่อง My Girl & I
พลอตเรื่องธรรมดาๆ น้ำเน่าอีกแล้ว
แต่เรียกน้ำตาแบบไม่ปราณีคนไม่พกทิชชู่ เอาซะเลย
(ก็ใครจะไปคิดอะ นึกว่าหนังตลก)
นั่งแถวหลังสุด มองไป แต่ละคนใช้หลังมือ ใช้แขนปาดน้ำตากันทั้งนั้น
Plot เรื่องส่วนใหญ่ของภาพยนตร์ที่เรียกน้ำตาจากคนดู ได้มากที่สุด
น่าจะเป็นหนังที่เกี่ยวกับการพลัดพรากจากคนรักแบบตลอดกาล (จากกันชั่วคราวไม่ค่อยได้ร้องไห้)
ไม่ว่าจะเป็นรักแบบไหนก็ตาม อย่างเรื่อง
Step Mom, Amargedon (ขนาดหนังแอ๊คชั่นยังร้องได้ บ้าไปแล้ว)
The Classic , Fly me to Polaris ฯลฯ
ถ้าเป็นการจากกันประเภทรู้ตัวก่อนล่วงหน้า เช่น ป่วยเป็นโรคที่ไม่มีทางรักษา
ต้องออกไปรบเป็นแนวหน้า จะบีบคั้นอารมณ์มากเป็นพิเศษ
แต่ช่วงฉาก หลังจากความตายมาพรากไปแล้ว
จะร้องน้อยลง หรือ เฉยๆ
สิ่งหนึ่งคิดว่ามาจาก “ความกลัว”
ความกลัวในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
ความกลัวการพลัดพราก
กลัวอนาคต กลัวความเปลี่ยนแปลง
กลัวไปหมด ...........
คนคนหนึ่ง กลัวความตายที่ค่อยๆ ย่างเข้ามาหา
อีกคนหนึ่งกลัวความตาย ที่มาพลัดพรากคนรักไปจากตัวเอง กลัวการต้องอยู่คนเดียว
ระหว่าง คนที่อยู่ กับคนที่ไป อยากเป็นใครมากกว่ากัน
ถนนสายหนึ่ง : วรพจน์ พันธุ์พงศ์
หากเราต้องจากกัน
http://www.onopen.com/2006/02/406
ตอนแรกคิดว่าเป็นหนังตลกรักโรแมนติคธรรมดาๆ
เหมือน My Sassy Girl ไปๆมา
กลับทำเขื่อนน้ำตาแตกกระจาย
ก่อนหน้านี้เรื่อง The Classic เป็นหนังที่เรียกน้ำตา
ได้มากที่สุดเท่าที่เคยดูมา ผ่านมาสามปีกว่า
ยังไม่มีเรื่องไหนทำลายสถิติได้
จนกระทั่งได้มาดูเรื่อง My Girl & I
พลอตเรื่องธรรมดาๆ น้ำเน่าอีกแล้ว
แต่เรียกน้ำตาแบบไม่ปราณีคนไม่พกทิชชู่ เอาซะเลย
(ก็ใครจะไปคิดอะ นึกว่าหนังตลก)
นั่งแถวหลังสุด มองไป แต่ละคนใช้หลังมือ ใช้แขนปาดน้ำตากันทั้งนั้น
Plot เรื่องส่วนใหญ่ของภาพยนตร์ที่เรียกน้ำตาจากคนดู ได้มากที่สุด
น่าจะเป็นหนังที่เกี่ยวกับการพลัดพรากจากคนรักแบบตลอดกาล (จากกันชั่วคราวไม่ค่อยได้ร้องไห้)
ไม่ว่าจะเป็นรักแบบไหนก็ตาม อย่างเรื่อง
Step Mom, Amargedon (ขนาดหนังแอ๊คชั่นยังร้องได้ บ้าไปแล้ว)
The Classic , Fly me to Polaris ฯลฯ
ถ้าเป็นการจากกันประเภทรู้ตัวก่อนล่วงหน้า เช่น ป่วยเป็นโรคที่ไม่มีทางรักษา
ต้องออกไปรบเป็นแนวหน้า จะบีบคั้นอารมณ์มากเป็นพิเศษ
แต่ช่วงฉาก หลังจากความตายมาพรากไปแล้ว
จะร้องน้อยลง หรือ เฉยๆ
สิ่งหนึ่งคิดว่ามาจาก “ความกลัว”
ความกลัวในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
ความกลัวการพลัดพราก
กลัวอนาคต กลัวความเปลี่ยนแปลง
กลัวไปหมด ...........
คนคนหนึ่ง กลัวความตายที่ค่อยๆ ย่างเข้ามาหา
อีกคนหนึ่งกลัวความตาย ที่มาพลัดพรากคนรักไปจากตัวเอง กลัวการต้องอยู่คนเดียว
ระหว่าง คนที่อยู่ กับคนที่ไป อยากเป็นใครมากกว่ากัน
ถนนสายหนึ่ง : วรพจน์ พันธุ์พงศ์
หากเราต้องจากกัน
http://www.onopen.com/2006/02/406
"Some people are so afraid to die that they never begin to live."
- Henry van Dyke
- Henry van Dyke
1 comment:
แกเคยคิดมั๊ย ??
เคยโดนถามว่า .. เลือกที่จะเป็นคนจากไป .. รึเป็นคนที่อยู่
ถ้าเลือกเป็นคนที่จากไป .. ทรมานอย่างหนึ่ง
แต่ !! ถ้าเลือกเป็นคนที่อยู่สิ .. ต้องทรมานจากการจากไป ... !! ใครทรมานกว่ากันนะ ??
Post a Comment