Mar 24, 2006

Freaky Friday

วันศุกร์ที่ไม่สุข เอาซะเลย.......

เตรียมตัวตั้งแต่เช้า จะนัดเจอเพื่อนสนิทกินข้าว
เดินชอปปิ้งกัน .......

4 โมงเย็น เริ่มปฏิบัติ ช่วยฝ่ายบัญชี

คีย์ข้อมูลสินค้าย้อนหลัง.....ตั้งใจว่าตอน 6 โมงจะออกจากออฟฟิศ

5 โมงครึ่ง ... พบว่าหลายรายการ คีย์พลาดไป

เลยต้องกลับมา Refund แก้ข้อมูลใหม่

นาฬิกาวิ่งไม่หยุด (ไม่รู้จะรีบไปไหน)

สุดท้าย เคลียร์ความผิดพลาดเสร็จตอน 1 ทุ่ม

โมโหตัวเองจริงๆ ทำไมเป็นคนอย่างนี้ -_-'

สรุป กว่าจะออกจากออฟฟิศก็ ทุ่มครึ่ง

รถติดแล้วติดอีก ทุก ๆเส้นทาง

ทั้งทางกลับบ้าน และทางที่จะไปหาเพื่อน ไปถึงสยามพารากอน ตอน สองทุ่ม

วนหาที่จอดอีกครึ่งชั่วโมง กว่าจะได้ทานข้าวก็เกือบ 3 ทุ่ม ทั้งหิว ทั้งเหนื่อย

ทั้งโกรธตัวเอง (ยังเอาเรื่องงานเก็บมาหงุดหงิดต่ออีก)

กับข้าวก็ไม่อร่อย แถมแพงอีก กินข้าวเสร็จ

วินาทีที่เดินออกจากร้าน รู้สึกเหมือนมีเส้นผมเส้นหนึ่ง ติดฟันกราม อยู่ด้านในสุด

ทั้งกระวนกระวายใจ และขยะแขยง ........ จะล้วงมือเข้าไปดึงออกมาก็ไม่กล้า

เพราะไม่รู้มันอยู่ไหน จะควานก็คงหาไม่เจอ กะแค่เส้นผมหนึ่งเส้น

แล้วก็เป็นเพราะอยู่กลางห้าง สยามพารากอน ...

(ห้างอื่นไม่แน่ 55) เกือบจะอาเจียนออกมาแล้ว เพราะอี๋ อี้ ตัวเองสุดๆ

เนื่องจากเพิ่งกินเสร็จไปอิ่มๆ
(เขมือบไปสองจานเต็มๆ ก็ไม่อร่อยอะนะ แต่เสียดายของ)

สุดท้าย ไปเริ่มปฏิบัติ งมเข็มในมหาสมุทร ในห้องน้ำ ....

เข้าใจอารมณ์คนเป็นโรคอนาเร็กเซียเลย (ที่ล้วงมือเข้าไปเพื่อให้อาเจียน)

แต่เราล้วงมือเข้าไป แต่ไม่อยากให้อาเจียน ......

หน้า และตาแดงก่ำ เพราะอารมณ์ที่ต้องกลั้นความรู้สึกผะอืดผะอมเอาไว้


................ผ่านไป 10 นาที..................



ในที่สุด......... มันก็ออกมา ......... แต่มันคือเส้นใยบางๆ ของหอมแดง

ของลาบหมูที่เพิ่งทานไป ......... เฮ้อ




ไม่นาน เพื่อนก็โดนเพื่อนอีกกลุ่มตามตัวไปต่อคาราโอเกะ

อารมณ์จะโป๊งชึ่ง ร้องเพลง มันหมดไปนานแล้ว ... เลยขอตัวกลับบ้านดีกว่า


แอบไปลองน้ำหอมกลิ่นที่แอบปิ๊งมานานนับปี ..... ฉีดแล้วก็ดมแล้วดมอีก

จนเพื่อนด่าว่า "ไอ้บ้า เหมือนคนติดยา" ......

อยากได้ก็อยากได้ แต่ทำไงดีอะ น้ำหอมขวดเก่าดันทะลึ่งซื้อขนาดยักษ์มา

ใช้มา 4 ปี หมดไปแค่ครึ่งขวด ..... อย่างงี้มิต้องรออีก สี่ปีหรอเนี่ย

หรือว่า เอาไปปาแตกลงพื้นให้ห้องหอมๆ ดี ..........


ที่จอดรถห้างนี้ก็กว้างใหญ่ไพศาลจริงๆ

เดินออกมาถูกชั้น แต่หารถไม่เจออีก โง่อีกละ

ใช้เวลาอีกประมาณ 10 นาที กว่าจะหารถตัวเองเจอ


จริงๆ ก็ไม่น่ารีบเจอรถตัวเองเลย เพราะทางออกของห้าง

รถติดเป็นงูกินหาง(ประมาณ 3000 ตัวต่อๆกัน)

ใช้เวลาตั้งแต่ก้าวขึ้นรถสตาร์ทรถ แล้วก็ขับพ้นจากเขตห้าง

ประมาณ 25 นาทีเต็มๆ เกิดมายังไม่เคยติดอยู่ในที่จอดรถ นานเท่านี้มาก่อน

ขนาดในที่จอดรถของห้าง มีตัวช่วยนับว่า มีที่จอดในแต่ละชั้นเหลือกี่คัน

มันก็ดีอะนะ ตอนต้อนรถเข้าห้าง แต่ตอนออกนี่สิ ......เฮ้อ


ดังนั้น ช่วงเวลาที่ติดอยู่ในรถทั้งหมด เลยใช้ไปกับการอ่าน
" Can you keep a secret"

ของเจ๊โซฟี .. จบไป 60 หน้า.......
ขอขอบคุณการจราจรบางกอก มา ณ ที่นี้



สัปดาห์นี้ผ่านไปเร็วจริงๆ ....
เคยได้ยินว่า ถ้ารู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วๆ เป็นเพราะกำลังมีความสุข

แต่ตอนนี้เราว่า เป็นเพราะยุ่งมากๆ จนไม่มีเวลาจะมาคิดเรื่องเวลา
เดินเร็วหรือเดินช้า ซะมากกว่า

ตกลงเรามีความสุขอยู่ไหม?





ป.ล แถมท้ายอีกนิดกับความโก๊ะอยากแฉของตัวเอง
เมื่อวันก่อน ไปหาซื้อหนังสือเตรียมสอบเข้า ม. 1 ให้น้องสาวตัวเอง
เลือกอยู่นานมากๆ สุดท้ายเจอสำนักพิมพ์น่าไว้ใจ ......
จ่ายเงิน กลับบ้าน
กลับถึงบ้าน อ้าว ซื้อผิดนี่นา เล่มนี้มันเขียนว่า "หนังสือเตรียมสอบ ม.1"
(หนังสือเตรียมสอบของเด็กที่เรียนอยู่ชั้นม.1 แล้ว)
มันไม่ใช่ "หนังสือเตรียมสอบเข้าม.1"

อ่านผิดไปแค่คำเดียว .. เสียเงินฟรีเลยเรา ...คืนก็ไม่ได้ แง้........


Book : 1. Jonathan Livingston : Seagull
2. "Can you keep a secret" finish soon...
Movie : Sekaino chuushin de ai o sakebu (Special Edition)

No comments: