กลัวพี่(โช)เฟอร์จะเหงา เลยชวนคุยซะเลย
ก็ถามๆ เรื่องทั่วๆ ไป ผู้โดยสารเยอะไหม
วันไหนเยอะสุด วันศุกร์คนเที่ยวเยอะไหม
เหนื่อยไหม ...
เหงาไหมพี่ อยากมีแฟนสักคนไหม (55 อันนี้ไม่ได้ถาม)
พอมาถึงเรื่องเที่ยว
เราดันอยากรู้(มานานแล้ว)
ว่ามีคนอ๊วก( ไม่ใช้ อาเจียนนะ... ไม่เห็นภาพ)
บนรถแท็กซี่ กันบ้างมะ
พี่เฟอร์บอก
น้อง มีเยอะสุดๆ
ยิ่งพวกคืนวันศุกร์นะ
บางวันสองสามรายติด ๆกัน
พี่ละเซ็งสุดๆ ...
โหพี่ แล้วพี่ทนกลิ่นได้ไงอะ
ต้องทำความสะอาดเองเลยปะ
ก็ใช่สิจ๊ะน้อง
ยังดีนะที่ของพี่เป็นเบาะหนัง
ถ้าพวกที่เป็นเบาะผ้า
ทำความสะอาดกันนานเลย
บางทีเจอคนอ๊วกปุ๊บ
ก็ต้องรีบจอดรถทำความสะอาดปั๊บ
เสียเวลา ไปรับผู้โดยสารคนถัดไปอีกนาน
แย่เลยเนาะพี่ ...
ไอ้พวกนี้นี่ไม่ไหว จริงๆ เอาแต่เที่ยวๆ
แล้วก็เมา อ๊วกแตก
คราวหลังพี่ก็ลองหาถุงพลาสติค
มาวางรอเหมือนในเครื่องบินดูบ้างมะ
เผื่อ จะได้ไม่ต้องเหนื่อยล้างรถ
เออ ดีๆ น้อง ไว้พี่จะเอาถุงมาติดรถ
ให้ไอ้พวกคออ่อนๆ ทั้งหลายมันได้ใช้กันบ้าง
ไม่ไหวๆ ดื่มจนเมา แล้วมาอ๊วกบนรถพี่เนี่ย
ถึงที่หมายพอดี
ลาก่อนนะคะพี่เฟอร์ ..
อีกมุมหนึ่ง
ของทางเลือกที่มีคนเสนอว่า
"เมาไม่ขับ" นั่งแท๊กซี่กลับบ้าน
สะดวกปลอดภัย ยิ่งนัก ...
พวกดื่มจนเมาแล้วอ๊วกเนี่ย ...
ขอซักทีเหอะ ทำตัวให้คนอื่นเขาเดือดร้อน
ตัวเองก็สบายนิ .. ไม่รู้เรื่อง
รู้สึกตัวอีกที ก็เป็นเจ้าชาย เจ้าหญิง บรรทมบนเตียงแล้ว
สงสารแท๊กซี่ตาดำๆ เขาบ้างนะ
เวลากินเครื่องดื่มมึนเมา ก็เพลาๆ กันบ้าง
อย่าหักโหม เอาแค่พอประมาณ
คงรู้คำว่า "พอประมาณ" ระดับของแต่ละคนย่อมไม่เท่ากัน
ไม่ใช่เห็นเพื่อนบอก "หมดแก้ว" ก็หมดแก้วเท่าเพื่อนทุกครั้ง
เพื่อนมันหมดแก้ว ไม่รู้สึกรู้สา อีกคน หมดแก้ว แต่อ๊วกแล้ว
จะอกหัก รักคุด ตรอมใจ เครียดกลุ้ม แค่ไหน
ไปกินที่บ้าน ปิดห้อง ซัดให้เมาเละ
อ๊วกกระจายเต็มห้องตัวเองไปเลย
(ดีสม จะได้ทำความสะอาดเอง)
ไปสร้างภาระให้คนอื่น เขาหนักใจ
เก็บกวาด ของไม่พึงประสงค์จากกระเพาะอาหารให้
ทั้งๆ ไม่ใช่ญาติพี่น้อง ไม่ใช่เพื่อน....
ด้วยความหวังดี ถึงทุกๆ ท่านที่ชอบเมา(นอกสถานที่) เป็นชีวิตจิตใจ
-- คราวหลังรู้ตัวว่าเมาเละ อ๊วกแตกแน่ๆ (คนเมาที่ไหนมันจะรู้ตัวว่าเมาล่ะแก)
ก็ขึ้นแท็กซี่ที่เป็นเบาะหนังนะ แท๊กซี่ (โชคร้ายคันนั้น) จะได้ทำความสะอาดง่ายๆ
อ้อ แล้วก็พกถุงพลาสติค หรือขโมยบนเครื่องลงมาติดตัวไว้บ้างก็ดี
เผื่ออ๊วกแล้ว จะได้มีที่รองรับของเน่าๆ ....
สี่แยกอะไรไม่รู้ ตรงสาธร ตัดกับนราธิวาส
คืนวันฟ้าพิโรธ ทั้งฝน ทั้งฟ้าร้อง แลบ กันกระหน่ำ
รถจอดติดไฟแดงอยู่นาน
จอดอยู่ด้านขวาสุด ติดกับเกาะกลางถนน
พลันเหลือบไปเห็น พวงมาลัยเป็นแถว วางอยู่บนพื้นเกาะกลางถนน
ข้างๆ พวงมาลัยแถวนั้น คือใต้รูนิดๆ ของเสายักษ์ รางรถไฟฟ้า มีกล่องเล็กๆ 1 ใบตั้งอยู่
เจ้าน้องตัวเล็ก เอาหัวมุดเข้าไปในกล่อง .. เกราะกำบังฝนส่วนหลังก็โผล่ออกมาท้าทายความหนาว.....
ท่าทางจะเจ็บตัวไม่น้อย
เพราะความแรงของฝนเม็ดใหญ่ที่ตกซ้ำไม่มีหยุด
...... ...... ........... โถ ....
เซ็งกับอีกหนึ่งอาชีพ ที่รัฐบาลไม่ได้ยัดเยียดให้
แต่เด็กเล็กๆ ต้องเป็นคนวิ่งไปวิ่งมา บนถนน
ฝ่าอันตรายแทนคนร้อยพวงมาลัย ตั้งแต่ยังไร้เดียงสา ....
อีกด้านหนึ่ง
เมื่อวานนี้ ไปรับน้องกลับจากที่เรียนพิเศษ
ระหว่างรอไฟแดงที่สามแยก
ใต้สะพานพระราม 7
ซื้อพวงมาลัยจากน้องหนู (ประมาณ 7-8 ขวบ) คนหนึ่ง
ซื้อเสร็จก็ จอดรอไฟแดงอีกแป๊บนึง
พอไฟเขียว กำลังขับรถออกไป
เห็นน้องคนเดิม ยืนยิ้มโบกมือบ๊าย บาย ให้
:) น้องหนูคนนั้น
เขาจำเราได้จริงๆแฮะ ...
เรากับน้อง ก็โบกมือ บ๊าย บาย ให้กันใหญ่ ...
Another happy day :)
Book : - Blink (Malcom Gladwell)
Thanks ..P'JoK
3 comments:
น่าให้ไอ้เป็ดมาอ่านจริงๆเล้ยยยย
Nice colors. Keep up the good work. thnx!
»
Post a Comment