Nov 1, 2006

-- Hisashiburina Merlion --

ไม่ได้มาสิงคโปร์นานมาก
ครั้งสุดท้าย มากับญาติโกโหติกา สมัยเรียนปี 1
(เมื่อ 2 ปีที่แล้วเอง 555 หลอกอายุอีก)



คราวนี้รู้ตัวล่วงหน้าแค่ 1 สัปดาห์
มาประชุมกับเจ้านาย แทนเพื่อนร่วมงาน ที่ติดธุระ มาไม่ได้

เจ้านายก็ใจดีให้ได้ที่นั่งแยกกัน (คงรำคาญเรา พูดมากเหลือเกิน)
ตื่นเต้นนิดๆ เพราะเป็นครั้งแรกที่ได้ขึ้น สิงคโปร์แอร์ไลน์
เพียงไม่กี่ชม.ผ่านไป ก็ได้เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง
ว่าเหตุใดเจ้านายเราถึงนิยมชมชอบเป็นแฟนพันธุ์แท้ของสายการบินนี้
ขนาดบินกลับบ้านที่ญี่ปุ่น ก็ยังใช้แต่สายการบินนี้


เริ่มตั้งแต่ ที่นั่ง มีที่วางขา เบาะก็มีที่รองหัว
(เพื่อนๆ แจลสามารถจินตนาการที่พิงศีรษะแบบ
Business Class นะ ที่มันพับลงมาได้สองข้าง
แล้วเอาหัวพิงได้น่ะ)
รายการบันเทิง มีให้เลือกเยอะมากๆ ย้ำ เยอะมากมาย
เลือกแทบไม่ถูกเลย อาหารก็อร่อย ชุดแอร์เก๋ แปลกดี
ดูแล้วเพลินๆ ตา ส่วนใหญ่ ท่าทางมี SVc.Mind มากๆ
ใจดีด้วย เอาเป็นว่า หลังจากนี้ถ้ามีไปไหนอีก ก็คงขอเจ้านาย
ไปสายการบินนี้แหละ


ดูหนังยังไม่ทันจบ เผลอแป๊บเดียวก็มาถึงสิงคโปร์แล้ว
สนามบินดูดี ใช้ได้มากๆ ไม่ต้องรอคิวนานๆ

แล้วก็นั่งแท๊กซี่มาถึงโรงแรมแชงกรีล่า เช็คอินเสร็จ
พักคนเดียว ... ไชโย



มาถึงห้องนอน ก็ไม่รอช้า ขอเก็บภาพภายในห้องมาอวดก่อน
555 คงอีกนาน กว่าจะได้พักโรงแรมระดับนี้อีกที
(บังเอิญรอบนี้เป็นประชุมระดับผู้บริหาร
ผู้น้อยอย่างเดี๊ยนเลยได้อภิสิทธิ์เหนือระดับ)


ห้องน้ำเก๋มากๆ มีลำโพงเชื่อมติดกับทีวีด้วย
ชอบสุดๆ นอนแช่น้ำ ฟังเพลงคลาสสิคเย็นๆ ..

อภินันทนาการชาจีนร้อนๆ ในห้อง
ผ่อนคลายมากๆ หลังจากสองทริปแรกในเดือนนี้
ต้องออกเดินทางพร้อมผู้คนมากมาย
ไม่ค่อยมีเวลาส่วนตัวเลย

มารอบนี้ แม้จะมาทำงาน
แต่ได้มีเวลาอยู่คนเดียว ก็สุดยอดแล้ว ....... Yeah! (Again)


มื้อเช้า ที่ The Line บุฟเฟ่ต์อาหารเช้านานาชาติ
กรี๊ด.. กินแหลก เติมไม่มียั้ง ...




เริ่มงานเสียที
ยืนรอที่ล๊อบบี้สักพัก ก็มีคนนำทางไป

(คิดในใจ) อ้าว ทำไมไม่ออกประตูนั้นล่ะ

อ้าว แหะๆ หน้าแตกเลย ก็เขาประชุมในโรงแรมสิจ๊ะน้องหนู




มื้อเที่ยง ก็ลงมาทานที่เดียวกับเมื่อเช้า
แต่เปลี่ยนเมนู เป็นอาหารเที่ยงแทน ...
สิงอยู่แต่ฝั่งอาหารญี่ปุ่น ปลาดิบมากมาย
ขนมหวานด้วย แผลบๆๆ อร่อยมาก พุงป่องเลย


วันแรกทำงานเสร็จแล้วก็นั่งรถไปทานอาหารจีนที่
Jade Restaurant
ในโรงแรมไหนไม่รู้จำไม่ได้แล้ว
เวลาทานโต๊ะจีนกับผู้คนมากหน้าหลายตา
เกร็งๆ เหมือนกันเนาะ
สวาปาม กินมูมมามเหมือนตอนอยู่กับญาติๆ ไม่ค่อยได้ แหะๆ
เก็บอารมณ์นิดนึง

ทานเสร็จ ก็ไปจิบไวน์กันต่อ ที่ The Wine Company
อืมมมมมมมม ..... ชีสอร่อยน้ำลายย้อยอีกแล้ว แผล่บๆ



วันรุ่งขึ้นประชุมถึงเที่ยง แล้วก็ต่อด้วยการแวะไปเยี่ยมออฟฟิศที่นี่

ต่อด้วยตระเวนดู ชอปเครื่องสำอางยี่ห้อตัวเอง อีก 5-6 ร้าน
หมดแรง เติมพลังด้วยน้ำผลไม้อร่อยๆ





แล้วทุกคนก็มารวมตัวกันที่ Aburiya ร้าน Yakiniku หรือร้านเนื้อย่าง ปิ้งเอง
ริมแม่น้ำ .....






ทานเสร็จปุ๊บ มีหรือ จะยอมแยกย้ายกลับบ้านกันง่ายๆ
งานนี้ไปต่อกันที่ The Jewel Box บนยอดเขา แห่งหนึ่ง วิวสวยมากๆ
คุยไป ดื่มไป คืนวันศุกร์ สนุกสนานจริงๆ


นอกเรื่องนิดนึง
เจ้านายเราบอกว่า ญี่ปุ่นเป็นชาติที่ Speed เร็วกว่านรก
ส่วนเมืองไทย ก็ช้าเป็นเต่าต้วมเตี้ยม
อย่างสิงคโปร์เนี่ยแหละ อยู่ตรงกลาง พอดีๆ แล้ว
ฟังแล้วก็ อืมมมม เนาะ หาเหตุผลมาช่วยเถียงแทน ได้ไม่เพียงพอ จ๋อยเลยเรา



เพื่อนร่วมงานมากมายหลากเชื้อชาติ หลายภาษา
ไต้หวัน - ญี่ปุ่น - สิงคโปร์ - มาเลย์ - ไทย
ภาษาอังกฤษ จีน ญี่ปุ่น ฯลฯ ....



อยากพูดจีนเก่งๆ จัง ถ้าพูดได้คงคุยได้สนุกกว่านี้เยอะ




ก่อนถึงวันเกิดตัวเองครึ่งชม.
ก็ได้เวลากลับโรงแรม ....

แล้วนาฬิกาก็บอกเวลา 00.00
Happy Birthday to me :)

ปีนี้ ฉลองวันเกิดที่ต่างประเทศต่อเนื่องเป็นปีที่สองแล้ว
ปีที่แล้ว กับเพื่อนๆ ที่บาหลี .... คิดถึงเพื่อนๆ จังเลย



เช้าวันใหม่ เพิ่งรู้วิธีเปิดผ้าม่าน (โลว์เทคที่สุดเรา)

เห็นวิวเช้าวันใหม่ วันหยุดวันเดียวของเราในสิงคโปร์
สดใส แต่เตียงนุ่มมาก แทบไม่อยากตื่นเลย
แต่ถ้าไม่รีบตื่น มีหวัง คงนอนได้จนเย็น (อิอิ)

มารอบนี้เอา Enterment Kit : DVD Player
มาด้วย ต่อดูกับทีวี หมดเวลาไปเยอะกับการถ่างตาดู และ
โอ้เอ้ดูอยู่นาน ก่อนออกไปเที่ยววันนี้
Desperate Housewife เลยขึ้นแท่น
หนึ่งในซีรี่ส์ที่สนุกถูกใจมากๆ อีกเรื่องนึง

ทานข้าวเสร็จขึ้นมาบนห้อง
เจอการ์ด Happy Birthday จากโรงแรม
พร้อมชอกโกแลตอร่อยๆ อัดแน่นอยู่ในกล่องสีทองหรู

ของขวัญชิ้นแรกของปีนี้





นั่งแท๊กซี่มาที่ National Museum

ยังสร้างไม่ค่อยเสร็จดี เลยได้ดูแต่ Art Gallery


ต่อมอยากชอปปิ้งเริ่มกำเริบ
โอย อยากชอป ทนไม่ไหว เรียกแท๊กซี่มุ่งสู่
แหล่งชอปปิ้ง นับแต่นั้น
เจ้ากระเป๋าตังค์น้อย
ก็ไม่เคยได้อยู่ในความสงบสุขอีกเลย



มื้อเที่ยง กินคนเดียว มี iPod เป็นเพื่อนคุย (เราฟัง)





เหลือเวลาเตรียมตัวอีก ครึ่งชม. ก็รีบวิ่งกลับมาที่โรงแรม
ยิ่งเดินยิ่งงง เอ๊ะ นี่มันทางไหนเนี่ย
โชคดีมีคนญี่ปุ่นเดินมาถามทางเรา
ว่าโรงแรมอยู่ทางไหน พอเห็นแผนที่ ที่เขาถือ
ถึงได้รู้ว่า เราก็เดินมาผิดทางนี่นา

แล้วก็เดินกลับมาถึงโรงแรม ทันเวลาพอดี

ขอบคุณนะค้า


และแล้ว ก็ถึงกาลแห่งการร่ำลา เจ้าสิงโตน้อย Merlion ...
นั่งคุยกับลุงแท๊กซี่ผู้มีสำเนียงภาษาอังกฤษอันไพเราะฟังง่ายยิ่งนัก

เริ่มชินกับการไปต่างประเทศคนเดียว ได้พบปะผู้คนมากมาย
หลากชาติ หลายภาษา ต่างวัฒนธรรม
เสียดาย มีเวลาน้อยไปหน่อย ไม่งั้น คงได้ตระเวนทั่วเกาะมากกว่านี้
แล้วกระเป๋าตังค์เราก็ไม่อยู่สุขอีกครั้ง ณ ร้านขายของปลอดภาษี
ได้รองเท้ามาอีกคู่ซะงั้น (-_-' ) สิ้นเดือนนี้ตายแน่ๆ เลย


วิ่งขึ้นเครื่องบิน ในฐานะ 1 ใน 5 คนสุดท้ายที่ขึ้นเครื่อง
ก้มหน้าก้มตามุดๆ หาที่นั่งโดยเร็ว เฮ้อ กลับบ้านซะทีนะหนู
คนข้างๆ วันนี้ เป็นหนูน้อย อายุประมาณ 11-12 เท่ากับน้องสาวเราเลย
พูดจาฉะฉาน คุยกันก็สนุกดี ช่างซัก พูดภาษาอังกฤษเก่งมากๆ
ตอนหลังแอบถาม น้องบอก หนูเรียนอยู่โรงเรียนอินเตอร์ค่ะ
มิน่า เก่งกว่าพี่อีก อิอิ

เปิดหนังดูเรื่องเดิม ( Devil Wears Prada) เป็นรอบที่สอง
เรื่องนี้เนื้อเรื่องก็งั้นๆ แค่ดูเสื้อผ้า ของสวยๆงามๆ ก็เกินคุ้ม
ชุดสวยๆ เก๋ๆ ชาตินี้คงไม่มีปัญญาได้ครอบครอง ขอแค่ดูผ่านๆตา ก็สุขใจยิ่ง

แล้วเครื่องก็มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ
สนามบินแห่งความภูมิใจของคนไทยหรือเปล่า ก็ไม่รู้ได้
แอบงอนสนามบินนี้ วันก่อนที่มา
ระหว่างทางเดินไปอาคารจอดรถ รถเข็นเจ้ากรรมทุกคัน
เข็นอยู่ดีๆ เดี๋ยวหยุด เดี๋ยวหยุด ตลอด เพราะพื้นตรงนั้น มีร่อง
เลยทำให้รถเข็นแปรสภาพเป็นรถบ้า วิ่งๆ เบรก
ลงจากเครื่องมาเหนื่อยๆ เข็นกระเป๋าหนักๆ เลยแทบสลบเหมือด
หงุดหงิดเป็นบ้าไปเลย พอมาถึงปลายทาง เจอน้ำท่วมขังอีก รองเท้าก็แฉะ
กระเป๋าก็เปียก เฮ้อ -_-' (ขอกัดอีกรอบนะ มันเซ็งจริงๆ)

มาถึงรอบนี้ ป่าป๊า เลยจอดมารับเทียบท่าหน้าประตูซะเลย เพราะเซ็งกับการจอดรถในอาคารแล้ว



เรื่องเล่ามากมาย ขออภัยถ้ายาวเกินไป
เรื่องเล่าที่ฮิโรชิม่า เอามาโพสท์แล้วนะคะ อยู่ด้านล่างๆ ข้างใต้เมืองจีน
ลองเลื่อนเมาส์ไปเรื่อยๆ ก็จะเจอค่ะ..... :)
กว่าจะมีเวลาว่างมาอัพบล็อก ก็ลืมเรื่องราวไปหมดแล้ว
ให้ภาพเล่าแทนคำพูดนะจ๊ะ


********************


Books : หลุมดำ Uncensored 2 (กฤษฎา ศุภวรรธนกุล)

Inflight Movie : Devil wears Prada x 2 (TH-SG, SG-TH)

Series : Desperate Housewife Disc 1-4

หมายเหตุ *
ภาษาญี่ปุ่นวันละคำ

Hisashiburina (Adj.) = ไม่ได้พบนาน...

ถ้าคนญี่ปุ่นพูดว่า O hisashiburi desu ne = ไม่ได้พบกันนานแล้วเนาะ
(ใช้พูดเมื่อเวลา ได้พบคนที่เราไม่ได้เจอกันมานาน )
********************

Happy 1 yr. Anniversary to this Blog :)

ไม่เคยคิดเลยนะเนี่ย ว่าจะเขียนบล็อกนี้มาได้จนครบปีแล้ว

Special Thanks to :
ผู้อ่าน ผู้โพสท์คอมเม้นต์ และผู้อ่านที่ไม่เม้นต์ ทั้งหลายด้วยนะคะ

*******************

3 comments:

Anonymous said...

P'Sayo เที่ยวบ่อยยยจัง อิจฉาๆๆๆๆๆๆ อยากไปๆๆๆ


-- Aid --

Anonymous said...

Sensei
Kono hotel wa sukoi service desune!
naze hotel nowa anata no tanjoubi wa shitteirunda?

subarashiine!
demosa'
Otanjoubi Omedetou Gozaimasune

Sayo said...

ummm ;)

I've shown the passport
when i'm check in ...
.. may be the hotel staff
accidentally saw my birthday
in my passport ...

i don't know -_-'

anyway lucky me :)