Jan 23, 2007

-- Blog Tag --

โดน Jakpanee ส่ง Tag มาแล้ว ก็ขอเล่นด้วยคนนะจ๊ะ

Blog Tag คืออะไร ???







blog tag การแท็คคืออะไร..?คนที่โดนแท็ค
ะต้องเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเอง 5
ข้อ
ที่เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยซึ่งคนทั่วไปอาจจะไม่รู้
และแท็คต่อไปอีก 5 คน แล้วนำไปขึ้น blog





คำจำกัดความจาก เวปของ Jakpanee




ขอแฉ (ตัวเอง) เลยแล้วกัน
1.บ้าชุดดำ



เมื่อก่อนเป็นคนที่ชอบโวยวายเวลาแม่ใส่เสื้อผ้าสีดำบ่อยๆ
จนกระทั่ง ..... กาลเวลาผ่านไป แม่เลิกใส่เสื้อผ้าสีดำแล้ว
กลับกัน ตู้เสื้อผ้าลูกสาว เนื้อที่เกินครึ่ง


เสื้อผ้าที่มีสีดำ เป็นส่วนประกอบ
ดำเมี่ยมมั่ง ดำบางส่วน ดำบางแถบ ... เต็มตู้ไปหมด



หนูก็ไม่ได้คลั่งไคล้สีดำมากมาย ทั้งๆ ที่สีที่ชื่นชอบส่วนตัว
คือสีส้ม น้ำตาล (และสีชมพูบ้าง เป็นบางเวลา)
คาด(เอาเอง)ว่า อนาคตคงลามไปถึงน้องสาว

2.เลือกกิน

กินโน่นกินนี่ไม่เป็นเยอะแยะมากมาย
เพราะไม่ชอบลองอะไรแปลกๆ
ไม่ชอบแตงกวา ถั่วฝักยาว น้อยหน่า
ลางสาด ลองกอง ทุเรียน ระกำ พุทรา
มะเฟือง มะไฟ ถั่วลันเตา ลูกเกด
ลูกพรุน ข้าวซ้อมมือ
น้ำเต้าหู้ นมถั่วเหลือง ฯลฯ
หรือ อาหารพื้นบ้านที่รสชาติจัดจ้าน
ก็ไม่เคยคิดจะหยิบมาเชยชม
สั่งผัดกะเพรา ก็เขี่ยใบกะเพรา
ทนกลิ่นข้าวโพดต้ม กลิ่นมะละกอไม่ได้
เอาไปห่างๆ สร้างความรำคาญแก่ผู้ใกล้ชิด
เซ็งตัวเองจริงๆ

3.ขาดความมั่นใจในตัวเอง

อันนี้เป็นบ่อยมาก บางทีขับรถออกจากบ้านแล้ว
เกิดจิตตก เอ๊ะ วันนี้โอเคแล้วรึยัง
หรือว่า เอ๊ะ วันนี้แต่งตัวประหลาดมากไปไหม
เอ๊ะ ฉัน...แล้วรึยัง
อืม มีอะไรติดฟันเราไหม
เผลอๆ ลามไปถึงขั้น ย้ำคิดย้ำทำเลยก็มี
-_-'


4.กระต่ายน้อยตื่นตูม

ถ้าคนที่สนิทกันจริงๆ แล้วจะรู้ว่า
เราเป็นกระต่ายที่ขี้ตื่นตูมมากๆ
มีอะไรเกิดขึ้นนิดหน่อย ก็จะเต้นเหยงๆ


ทำไงดีๆ คนรอบข้างพาลรู้ได้โดยไม่ต้องถาม
(โดยเฉพาะเรื่องหน้าแดง เก็บความรู้สึกไม่อยู่
ใครแซวอะไรนิดหน่อยๆ หน้าจะแดงไปถึงหูซะงั้น
ยิ่งตอนเล่นไพ่เก้าเก แล้วถือไพ่เจ๋งๆ เช่นตอง ในมือนะ ..
คนรอบข้างไม่กล้าเกทับเลย เพราะเห็นหน้าเรา
แดงปั๊ด หมอบหนีกันหมด )
ลามไปถึงอาการ ตื่นเต้น ตกใจ มากเกินความจำเป็น
สงบสติ อารมณ์ไม่ค่อยจะได้ หัวใจไม่ค่อยได้เต้นจังหวะ
ปกติซักกะที แล้วก็เวลาดูหนังที่ตื่นเต้นมากๆ
เช่น หนังผี หนังฆาตกรโรคจิต I know what you did...
Urban Legend /อาการจะเข้าขั้นโคม่า มีผ้าห่ม หมอนปิดหน้า
ตอนที่เพื่อนๆ ชาวแอร์ มาปาร์ตี้สุกี้ที่ห้องของข้าพเจ้า
แล้วเปิดหนังเรื่อง House of Wax มาดูกัน ... นั่งไม่ติดเลยอะ
ตื่นเต้น เดินไปเดินมาในห้อง ล้างจานก็แล้ว อาบน้ำก็แล้ว
เพื่อนๆ คนอื่นนั่งดูกันตาแป๋ว ซาโยะ นี่ไม่ได้เลย ขี้กลัวและขี้โวยวายจริงๆ










5.เรื่องสนุกๆ ในอดีต
มานั่งนับๆ ดูอาชีพประจำก็เพิ่งทำได้สองที่
แต่ที่ไม่นับเป็นอาชีพ แต่เป็นเรื่องสนุกๆ ในช่วงเวลาสั้นๆ ก็มีมากมาย

อาชีพแรก "บ.ก นิตยสารรายเดือน "
สมัยเรียนประถม 5 กลับจากโรงเรียนมาถึงบ้าน
ไม่ค่อยมีอะไรทำ

เลยยึดคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ในออฟฟิศแม่
รุ่น 286 สมัยมี CU-Word / Lotus /
Game Xenon /Arkanoid : DOHเกมส์นี้สุดยอด ชอบมาก
เล่นติดต่อกันได้ทั้งวันทั้งคืน



Chip N'Dale /Pacman


เกมส์แพคแมนนี่หลอนมาก เล่นทีไร หัวใจเต้นแรง
รีบปิดเกมส์ก่อนโดนกินทุกที บรื๋อ กลัว


อิอิ นอกเลือกไปเรื่องเกมส์มากไปนิด
กลับมาเรื่อง นิตยสารต่อ

สมัยนั้น ที่บ้านเริ่มทำกิจการเข้าเล่มหนังสือแล้ว
เห็นนิตยสาร หนังสือ วางอยู่เต็มบ้าน เต็มโรงงาน
(ที่เดียวกัน) ปิ๊งไอเดียหากินกับเพื่อน ด้วยการทำหนังสือ

(จริงๆแล้ว จะได้มีเรื่องดูดีที่ใช้อ้างแม่ ขอเล่นคอมได้)

วัตถุดิบก็มีมากมาย พวกหนังสือดอกหญ้า นิทาน เทพนิยาย
หนังสือฮาวทู ฯลฯ ก๊อปแปะ ซะเลย
เรานี่แหละ ผู้ถือกำเนิดกิจการการละเมิดลิขสิทธิ์ (จุ๊จุ๊)

กระบวนการจัดทำนิตยสาร

1.เก็บข้อมูล (จากหนังสือเล่มอื่น)
2.กำหนดเนื้อหา
3.ใช้โปรแกรม CU-Word พิมพ์
4. พิมพ์ ออกจากคอม
เพราะความโง่ ด้อยปัญญาในการจัดหน้าให้พอดีกับไซส์กระดาษ
กระดาษที่ใช้จึงเปลืองมาก (ออฟฟิศจ่าย)
5.ทำสำเนา เย็บเล่มด้วยวิธี "เย็บลวด = แม๊ก "
ยอดจำหน่ายประมาณ 5-10 ฉบับต่อเดือน
6.ขายเพื่อน ...... อ้อนวอน ออดอ้อน ให้ซื้อเต็มที่
เพื่อนส่วนใหญ่ยอมซื้อ ด้วยเหตุผลว่า "จะเอาไปทำกระดาษทด"

นิตยสารรายเดือนที่ไม่มีลงโฆษณาใดๆ
ทุกๆ ตัวหนังสือในนิตยสารเล่มนี้ จึงเกิดขึ้น
ด้วยใจรัก หวังผลในเงินเพื่อนจริงๆ

มานั่งนึกเล่นๆ ก็ฮาดี ทำลงไปได้ไง
เดือนแรก ตั้งราคาไว้ที่ 8 บาท
เดือนถัดๆไป ต้องลดราคาลงเหลือ 5 บาท
เพราะเพื่อนๆบ่นว่า ไม่พอค่าขนมประจำวัน


ทำได้ 7-8 เดือน ก็ปิดกิจการไป เพราะบ.ก ขี้เกียจ

ดีใจจัง ที่ยังบังเอิญเก็บต้นฉบับไว้อยู่

สาวโรงงาน
บ่อยครั้งที่คนงานในโรงงานแม่จะไม่พอ
โดนดึงตัว แย่งคิวไปก็บ่อยครั้ง

ติวเตอร์สอนพิเศษ

สมัยเป็นเด็กมหาลัย แม่ให้ตังค์กินขนมน้อย
เลยต้องหาเลี้ยงชีพด้วยการสอนภาษาญี่ปุ่นเบื้องต้น
(เบื้องต้นจริงๆ เพราะรู้อยู่แค่นั้นแหละ)

อ้อ แล้วก็ภาษาอังกฤษ .. ให้น้องชายเพื่อน
สุดท้าย.. น้องเขาสอบตก -_-'

สนุกดีอะ ไม่ซีเรียส สอนไปกินไป ครูชอบ



สาวเสิร์ฟ

ร้านอาหารฮาวาย Hilo's Kitchen @ Wakayama Japan



ด้วยความเมตตาของเจ้าของร้าน ที่ให้งานกับเด็กต่างชาติตาดำๆ แบบเรา

รับหน้าที่เสิร์ฟอาหาร เตรียมอาหาร ล้างจาน ทำความสะอาด ชงกาแฟ

ชงเหล้า ฯลฯ ทำงานนี้ได้เกือบ 6 เดือนเต็มๆ สัปดาห์ละสองวัน วันละ 4 ชม.

18.00-22.00 เดินจากบ้านที่พักแค่ 5 นาทีก็ถึง

ลูกค้าน้อย กิจการไม่ค่อยดี หลังจากเรากลับเมืองไทยไม่กี่เดือน

ร้านก็เจ๊ง :( เพราะได้ทำงานที่นี่ จึงได้มีเงินเที่ยวแหลก ฮอกไกโด คันไซ ยันคันโต


ครูประจำแบบพิเศษ
ตอนขึ้นปี 5
รุ่นพี่ที่ซี้ๆกัน เดินมาถามว่า
สนใจจะสอนภาษาญี่ปุ่นให้เด็กมัธยมไหม
อืม ถ้าพี่กล้าถาม หนูก็กล้ารับค่ะ
หลังจากนั้น ทุกวันศุกร์ หลังเลิกเรียน 10 โมง
ต้องรีบเปลี่ยนชุด ขับรถบึ่งไปที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง
ปรับลุคเป็นครูหน้าแก่ (ยากจัง 555 )
รับหน้าที่สอนภาษาญี่ปุ่น วิชาที่ไม่นับหน่วยกิต
ให้เด็กม.2 และม.3 ชั้นละ 1 ชม.

เป็นอีกช่วงเวลาหนึ่งในชีวิตที่สนุกดี อยู่กับเด็กๆ ไม่มีพิษมีภัย
ช่างซัก (เรื่องส่วนตัวของอาจารย์) แต่ โคตรจะซนเลย ...

สอนได้ครบ สองเทอมพอดี จึงต้องขออำลาไปเป็นแอร์กี่

ล่าม
จากการแนะนำของเจ๊ MD. จึงได้รู้จักกับ นายหน้าจัดหาล่าม
ที่รู้จักกันแพร่หลายในเรื่องความเขี้ยว หักค่านายหน้าสุดโหด
40-60 %



งานแรกประเดิมด้วย งานขายเครื่องจักร ที่ไบเทค
งานนี้ฮามาก ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเครื่องจักร
เจอคนญี่ปุ่นที่เฝ้าบูธทั้งสองคน ทำงานอยู่ 5 วัน ก็สนุกสนานดี
เพราะแปลมั่วมาก ไปๆมาๆ เป็นเซลส์ไปด้วยในตัวเลย


แต่ที่เจ็บใจมากเลย คือได้รู้ว่า ตัวเองโดนหักค่านายหน้าไปเท่าไหร่

งานที่สองเพื่อนแนะนำมา ไปแบบเอ๋อๆ แล้วก็
เครียด + อยากร้องไห้มากที่สุดในชีวิต
เพราะแปลไม่ได้เลย เจอเรื่องยากๆ ที่ไม่คาดว่าจะต้องมาแปล
ศัพท์เทคนิคล้วนๆ ... เฮ้อ เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ทำให้เวลา
ไม่กี่ชม. กลายเป็นระยะเวลาที่ยาวนานที่สุดของเราเลย...

งานที่สาม งานวันเอดส์โลก
ประจำบู๊ธของสถานทูต
งานนี้ก็ดูอินเตอร์ดี เจอคนหลากหลายชนชาติมารวมตัวกันมากที่สุด
โชคดีตรงที่ไม่ต้องแปลอะไรมาก เน้นประสานงานอย่างเดียว
งานนี้ทำให้ได้รู้ว่า คนที่เต็มที่กับงานอาสาสมัคร
ทำงานด้วยใจรักจริงๆ กับพวกที่อยากทำเพื่อให้ได้ชื่อเสียง และเกียรติยศ
นั้นแตกต่างกันอย่างไร
ส่วนพวกบริษัทยา หากินกับคนป่วย
นี่ร่ำรวยมหาศาลจริงๆ ......
เจอกลุ่มที่มาประท้วงด้วย ตื่นเต้นมากๆ

พริตตี้
อ๊ะๆ จุ๊ๆ อย่าบอกใครไป
ในชีวิตนี้ ครั้งนึง ดิฉันก็เคยเป็นพริตตี้กับเขาด้วยเหมือนกัน

บังเอิญค่ายมือถือเจ้านึงอยากเปิดตลาด เป้าหมายอยู่ที่คนญี่ปุ่น
เลยต้องเสาะหาพริตตี้ที่พูดภาษาญี่ปุ่นได้ เจ๊นายหน้าเจ้าเดิมก็ติดต่อมา
พร้อมตกลงจะทำงานกันกระจายไปโรดโชว์ที่อาคารสำนักงานต่างๆ

ในช่วงเวลาเกือบ 3 เดือน Orientation แล้วก็คุยรายละเอียดกันเสร็จ
เจอปัญหาหนักคือ อธิบายให้ที่บ้านฟังยังไงดีหว่า ?
ว่า ไม่ใช่พริตตี้แบบงานมอเตอร์โชว์ที่ต้องนุ่งน้อยห่มน้อย
แล้วมีงูทั้งป่า คลานมารุมจ้อง ... ท่านแม่เห็นเครื่องแต่งกายแล้วก็อนุมัติ

เพราะแขนยาว กระโปรงคลุมเข่า (เครื่องแบบนักเรียน นี่นา ) ....
อิอิ แต่แอบเห็นน่า พ่อแม่แอบมาดู ชวนมากินข้าวเที่ยงด้วย


วันเริ่มงานก็มาถึง ตื่นเต้นมาก แทบไม่ต้องทำอะไรเลย
เพราะยืนเฉยๆ แจกโบรชัวร์ ตึกทั้งตึกนี่แทบไม่มีคนญี่ปุ่นเลย
ไม่รู้ไปหามาได้ไง ก็สบายสิ เด็กจอมไฮเปอร์เมื่อถูกจับให้มายืนเฉยๆ

เริ่มเบื่อ เริ่มเซ็ง เพราะไม่มีเพื่อนให้คุย ไม่มีอะไรทำเลย

พอคิดจะเริ่มปลงตกกับชีวิตเศร้าๆ อีกเกือบ 3 เดือนของตัวเองแล้ว


ทันใดนั้นก็เหมือนมีเสียงสวรรค์
"ฮัลโหล น้องคะ บังเอิญทางฝ่ายออร์แกไนเซอร์กับฝ่ายการตลาด
มีปัญหาการนิดนึงค่ะ พี่อาจจะต้องขอยกเลิกเหลือแค่ 3 วันนะคะ"

โอ๊ว กรี๊ด ดีใจมากๆ อย่างน้อยก็ยังดีวะ จากสามเดือนเหลือแค่สามวัน
เรื่องเงินไม่สนแล้ว ถ้าเบื่อซะอย่าง อะไรๆ มันก็ไม่สนุกแล้ว

ขำๆ น่า ...

แม่ค้าหน้าเลือด
เรื่องนี้เราเลวมาก ขอยอมรับเลย
สมัยโน้น ตอนที่ได้ไปเรียนญี่ปุ่น
ก็แบกชุดไทยงามๆ ไปด้วยหนึ่งชุดที่ซื้อมาได้จากแถวพาหุรัด
เพราะมัวแต่คิดจะหาตังค์เที่ยว
เลยต้องเอาชุดไทยสมบัติล้ำค่า ที่แบกไปแต่ไม่เคยใส่ ออกมาขาย
คนญี่ปุ่นที่รู้จักกัน แล้วเขาก็ค่อนข้างคลั่งไคล้เมืองไทยเอามากๆ ก็ขอซื้อต่อ
ไปด้วยราคามหาโหด มากกว่าราคาซื้อถึงหลายเท่า

จนทุกวันนี้ เรื่องนี้ก็ยังตามมาหลอกหลอนเราอยู่เลย
เราผิดไปแล้วค้าบบ

หมดละ เท่าที่นึกออก
แล้วก็งานที่แล้วบนฟ้า กับงานนี้บนดิน

จบละ5 ข้อ เสี้ยวหนึ่งของชีวิตเรา
*************************
ตามธรรมเนียม อีก 5 ท่าน รับไปเลยค่ะ
- MDchan
- Kippuchan
- Champ (Mole)
- Phil_Harmony of Life
- Oakyman
*************************

Book
- โลกใบนี้โคตรรอบกระทะกับหม้อเหล็ก (และต้นไม้ด้วย)
เขียนโดย คณา คชา สนุกสนาน เรื่องราวน่ารักดีอะ อ่านก็ง่าย
แนะนำโดยน้อง J-cyclopedia


Magazine
- มติชนรายสัปดาห์ 19-25 ม.ค
อ.นิธิ / ศีลธรรมบนเขายายเที่ยง
ไมเคิลไรท / อัตตาณานิคมมีจริงหรือ ?
หนุ่มเมืองจันท์ / ชอบอ่านทุกตอนของคอลัมน์"ฟาสท์ฟู้ดธุรกิจ"เลย
(น่าจะเป็นหนึ่งในหนังสือนิสยสารอ่านนอกเวลาของเด็กมัธยมนะเนี่ย)

Movie

- Perhaps Love
(ดูพระเอกTakeshi Kaneshiro อย่างเดียวก็พอแล้ว)
- Panic Room
- Cinderella Man


Series
- NCSI (เริ่มจะเสพติดแล้ว ช่วยด้วย -_-')

คอนเสิร์ตที่พลาด
- Kita Back to the Future Concert

ไม่ได้รู้เรื่องเลย ว่าจะมีคอนเสิร์ตนี้ที่โหยหามานาน

ถ้ารู้ ก็ไม่พลาดแน่ๆ อยู่แล้ว
ก็ยังดีที่ คุณพี่บัด ส่งลิงค์ ถ่ายทอดสดของทรู มาให้ดู
ตอนที่ผ่านไปเกือบครึ่งแล้ว

ก็ยังทันได้ดูเฉลียง อ้อม เอ็ม และออฟ เนาะ :)











5 comments:

Anonymous said...

อ่ะ ได้เป็น 1 ใน 5 Tag ด้วยอ่ะเรา...
แต่คงต้องรอนานหน่อยนะ เราคิดมะค่อยออกอ่ะ ถึงคิดออกก็เขียนนานอยู่ดี :)

Anonymous said...

เฮือกกกก พึ่งเห็น!

(หลังๆ บ๊อกตัวเองยังไม่ค่อยเข้าเรย)

งั้นรอหน่อยเด้อ เด๋วจาไปคิดมานะ

_philharmonic said...

โดนจนได้ -_-'

ยังไม่ได้เขียนหรอก แต่มาโฆษณาบล๊อกไว้ก่อน 555

http://harmony-of-life.blogspot.com/

Oakyman said...

ดอง Tag มากว่าเดือนแล้ว

รักกันจริงรอต่อไปอีกหน่อยนะจ๊ะ :P

(เตรียมข้อมูลไว้นานแล้ว แต่ไม่ได้ลงมือเขียนซักกะที)

Anonymous said...

webmaster service seo world backlinks website backlinks