ท่อระบายน้ำเจ้ากรรม เกิดเสื่อมสมรรถภาพในการระบายน้ำออกให้หมด ภายในเวลาที่ควรจะเป็น นับวันก็ช้าลงๆ จนเกือบท่วม เปิดฝาชั้นที่ 1 เขี่ยสิ่งสกปรกออกก็แล้ว เปิดฝาชั้นที่ 2 ก็จัดการทำให้มันสะอาดอีก ก็ไม่สำเร็จ มันก็ยังตันเหมือนเดิม จนเริ่มเหนื่อยใจและเซ็ง แต่ก็ยังฝืนไม่ยอมขอความช่วยเหลือจากใคร เพราะคิดว่า เดี๋ยวมันก็คงหาย
ผ่านปีอีกสองสามวัน ท้ายที่สุดไม่รู้จะทำอย่างไร จึงต้องเรียกป่าป๊าโดราเอมอนมาช่วย เกรงใจก็เกรงใจ เพราะห้องน้ำนี่เราว่าเป็นห้องที่ส่วนตัวยิ่งกว่าห้องนอนซะอีก ป่าป๊ามาถึงไม่พูดไม่จา เปิดฝาชั้นที่ 1 และ 2 ออก ดึงท่อเหล็กหนักๆ ออกมา แล้วก็บอกว่า
“นี่ไงล่ะ มันมีอีกชั้น ทำความสะอาดชั้นนี้ออก ก็เสร็จแล้ว”
อืม จริงด้วยแฮะ ขอบคุณค่า ป๊าป๋า
การชอบนึกว่าตัวเองรู้แล้ว คือหนึ่งในสิ่งที่เป็นอุปสรรคใหญ่ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ มากมาย จากที่เคยมั่นใจว่า ถ้าทำความสะอาดทั้งสองชั้นได้ ก็คงไม่มีปัญหา สุดท้ายเจอปัญหาที่ไม่รู้เข้า ก็เก็บเงียบไว้นานไม่ปรึกษาใคร จนสุดท้ายทนไม่ได้ ก็ต้องไปพึ่งเฮียใหญ่ ตามมาด้วยประโยคยอดฮิต .. รู้งี้ถามเสียตั้งแต่แรกก็จบ
มีอีกหลายเรื่องราวที่คนเราไม่ชอบถาม ไม่กล้าถาม และไม่ยอมถาม ชอบนึกเอาเอง คิดเอาเอง และสรุปเอาเอง คุณเจ้านายใหญ่ผู้สูงวัย ไม่ยอมถามพนักงานรุ่นน้องเพราะกลัวจะเสียเหลี่ยม คุณนักเรียนไม่กล้าถามคุณครูเพราะกลัวจะโดนด่าว่าโง่ คุณผู้หญิงไม่ชอบถามคุณผู้ชาย สรุปเอาเองว่าหลายวันที่คุณผู้ชายหายหน้าไป ไม่โทร.หา ก็(คิดเอาเองว่า) เพราะเขาไม่รักเราแล้ว
จะดีกว่าไหม ถ้ารู้จักคิดเอง รู้จักตั้งสมมติฐาน รู้จักถาม (จากคนที่เขาเคยผ่านประสบการณ์มาแล้ว) และพิสูจน์ด้วยตัวเอง ก่อนจะตกลงปลงใจเชื่อ ด่วนสรุปตามคำของคนรอบข้าง ตามสื่อ และตามท่านผู้นำ
ไม่ใช่ว่า เห็นน้ำผุดขึ้นมาจากดิน ก็นึกว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็เอาเวลาทั้งหมดไปนั่งกราบนั่งไหว้ รวมไปถึงเอามาดื่มกิน สุดท้าย น้ำนั้นเกิดจาก ท่อระบายน้ำเสียที่มันแตก มันรั่ว (สยองไหมล่ะเนี่ย)
เห็นวัตถุแปลกปลอมหล่นมาจากฟ้า ก็นึกว่าของดีของวิเศษ ของมนุษย์ต่างดาว สุดท้ายเป็นแผ่นลดไข้ ...
เห็นดาราสองคนเดินออกมาจากอพาร์ตเมนต์เดียวกัน ก็สรุปให้ซะเลย ว่าเขามีอะไรกัน เขาเป็นชู้กัน
(ทั้งๆ ที่ผู้ชายเขาเป็นกระเทย)
โลกของเราคือผ้าผืนยักษ์เนื้อละเอียด ที่ทุกเส้นสายของด้ายที่ถักทอ คือ จำนวนของทุกความเป็นไปได้ที่เกิดขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นจริงกับสิ่งที่อีกคนตีความเอาเอง อาจจะไม่ตรงกัน ถ้าตรงกันก็แล้วไป แต่ถ้าเดาผิด ก็เป็นเรื่อง
น่าเสียดาย โลกนี้คงสงบสุขขึ้นอีกถ้าจะเลิกด่วนตัดสินเรื่องราว ตัดสินคนอื่น โดยยึดติดจากความคิดของ.....”ตัวเอง” แต่เพียงอย่างเดียว
*********************************
ห่างหายจากวงการบันเทิงไปนาน พอสะสางภารกิจเสร็จไปหนึ่งอย่าง ก็ได้โอกาสตั้งศูนย์ถ่วงเวลาให้กลับมาเพลิดเพลินกับสิ่งที่ชอบที่ชอบได้ซะที เย้
Book
1. วันที่ถอดหมวก (เสกสรรค์ ประเสริฐกุล)

ขอสารภาพว่าแม้หนังสือของลุงเสกสรรค์ จะอยู่เกลื่อนกระจายเต็มชั้นหนังสือแค่ไหน แต่ก็ไม่เคยคิดจะมาอ่านเลย เกือบๆจะหยิบมาอ่าน แต่ก็เผลอไปหยิบเล่มอื่นมาอ่านแทนซะทุกที (ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน) กว่าจะได้ปฐมฤกษ์เปิดอ่านเล่มแรก อายุอานามของคุณลุง ก็เกือบจะ 60 ก็ดี จะได้เริ่มอ่านย้อนหลังไปเรื่อยๆ
แนวหนังสือเล่มนี้ จะว่าไปก็คล้ายๆ ของเฮียวรพจน์ ที่ขโมยฉากชีวิตประจำวัน เอาเรื่องราวจากการสปช. มากลั่นมากรองเป็นความคิดที่ตกผลึก เปิดอ่านหน้าแรกปุ๊บ ก็รวดเดียวจบข้ามวันแบบไม่มีพักยก .................................
อยากอ่านอยากยืมก็บอกกันได้นะ
2.The Orange Girl
(ส้มสื่อรัก Jostein Gaarder เขียน จิรนันท์ พิตรปรีชา แปล)
ฮึ่มๆ เล่มนี้ รอคอยมานานแสนนาน กว่าจะมีเวอร์ชั่นภาษาไทย ขอขอบคุณครอบครัวนี้(อีกครั้ง)ที่หมั่นป้อนผลงานเขียนและแปล มาช่วยเราฆ่าเวลาอยู่เรื่อย ผู้แต่งเล่มนี้ก็เจ้าเดียวกับเจ้าของหนังสือเรื่อง โลกของโซฟี หนังสือขึ้นแท่นตลอดกาลของหนู เล่มนี้อ่านง่ายกว่าโซฟีเยอะ เกี่ยวกับบันทึกเล่มหนึ่งของพ่อซึ่งตายจากลูกไปตั้งแต่ลูกอายุ 4 ขวบ เขียนถึงลูกคนเดียวกันในวัย 15 ปี รวดเดียวจบอีกเช่นกัน แอบเสียดาย นึกว่าจะได้อ่านเล่มหนาๆ กว่านี้ กลายเป็นเล่มกระติ๊ดบางกระจ้อย ใครอยากเล่มอ่านหนังสือที่ไม่ใช่นิยายน้ำเน่า หนังสือแฉแหลก ก็เริ่มจากเล่มนี้ได้ชัวร์
*ไม่ได้อ่านปกนี้หรอก .... แค่ติดใจว่าปกนี้สวยดี (น่ากิน)
3.การล่มสลายของครอบครัวที่ความรักไม่อาจเยียวยา (ชื่อหนังสือยาวมาก)
เล่มนี้สิงอยู่บนชั้นหนังสือมานานแล้ว กะจะหยิบมาอ่านเล่นๆ ตอนไปเที่ยว อืมมม อ่านเรื่องสั้นไปได้สัก 3-4 เรื่อง ยิ่งอ่านยิ่งหดหู่ ทำไมเศร้าอย่างนี้ เลยเลิกอ่านดีกว่า
4.พม่าเสียเมือง (ม.ร.ว คึกฤทธิ์ ปราโมช)
เล่มนี้สิเจ๋งจริง สิงอยู่นานอีกเช่นกัน แต่ด้วยไม่มีแรงกระตุ้นให้แตะต้อง มันเลยนอนเหงามาหลายสิบปี มาวันนี้พอพม่าเกิดเรื่องขึ้น ก็ชักอยากรู้ว่าก่อนหน้ายุคนายพลส่งส่วยทั้งหลายนี่ พม่าเขาเป็นไงมาไงกันบ้าง เสียท่าหลุดไปอยู่ในมือผู้(ที่คิดว่า)ดี ชาวอังกฤษ เพราะอะไร แล้วก็โรครวดเดียวจบกำเริบ กว่าจะจบก็เกือบตีสอง
อ่านไปได้สัก 5-10 หน้าก็เริ่มเอ๊ะ คุ้นๆ เหมือนละครเรื่องนี้ที่ฉายสมัยเราอยู่ม.3 เลย ชื่อเรื่อง “เพลิงพระนาง” พออ่านจนจบ ก็ใช่จริงๆ ด้วย (ทำไมเราความรู้สึกช้าขนาดนี้เนี่ย) อ่านง่าย สนุกกว่าอ่านจากหนังสือเรียนเยอะ... ....
แต่ก็เขียนจากฝั่งความคิดของคุณชาย จากฝั่งเมืองไทย ที่เรามักคิดว่าเราดีกว่าเขา ... บางตอนบางฉาก เลยมีเปรียบเทียบ ยกตนข่มเขาอยู่บ้าง
5.Emma (Jane Austen)
อิอิ ไม่ได้อ่านภาษาไทยด้วยน้า เล่มนี้เนี่ย
แต่ อ่านภาษาอังกฤษฉบับสำหรับเด็กประถม (ฮ่าฮ่า)
ก็ ไม่มีไรจะพูดถึง เพราะมันก็ไม่ได้มีอะไร ..... (สำหรับเรา)
6.นิทาน.. ลืมชื่อคอลัมน์อะ แหะๆ (มติชนสุดสัปดาห์ ทุกเล่ม)
ไม่เคยอ่านมาก่อนเช่นกัน แต่เพราะแรงแนะนำจากคุณน้องสาวที่หยิบเล่มทุกทีที่เอามาอ่าน ก็เพราะคอลัมน์นี้คอลัมน์เดียว แรกๆ ก็งงๆ มันติดใจอะไรกัน จนตอนนี้ติดงอมแงมทั้งอาเจ๊และอาหมวย
*******************
Movie
1.The Longest Yard

ที่ Adam Sandler เล่นเป็นนักกีฬา แล้วก็มาเป็นนักโทษ
ขอสารภาพรักหน่อยเหอะ ....
เกิดมาไม่เคยประทับใจ”พระเอก”ในบทฮีโร่คนไหนเท่าคุณพอล ครูว์
ในเรื่องนี้เลย แม้กระทั่งซุปเปอร์แมน แบทแมน สไปเดอร์แมน ก็สู้ไม่ได้
ได้ใจไปเต็มๆ กรี๊ดๆ 555 อ้อ แล้วก็เฮียอดัมส์ (ตัวจริง)
ก็ยังนั่งแท่นพระเอกที่ชอบที่สุดเหมือนเดิม :P
จริงๆ เรื่องนี้เป็นหนังนานแล้ว เห็นบนเครื่อง
แบบเดินผ่านๆ ก็หลายสิบรอบ
แต่นึกว่าเป็นหนังไม่สนุก เลยไม่ค่อยได้สนใจ
2.House Arrest พล็อตเรื่องเก๋ดี
เกี่ยวกับกลุ่มเด็กที่จับตัวพ่อแม่มาเป็นตัวประกัน
**********************************
Website
โลกของหนูแหวนกับโลก (วัฒนชัย วินิจจะกูล)
ตกลงคนเป็นสัตว์กินพืชหรือสัตว์กินเนื้อกันแน่ (แทนไท ประเสริฐกุล)
(เกือบครบตระกูลในโพสท์เดียวเลยแฮะ)
**********************************
ป.ล ผองเพื่อน ใกล้เปิดบ้านใหม่เตรียมปาร์ตี้แล้วนะ
เคลียร์คิวรอได้เลย ....
3 comments:
Adam Sandler นี่เป็นขวัญใจเราเหมือนกัน
เรื่องนี้ดูแล้ว ใน UBC
เค้าเป็นนักแสดงทีเล่นตลก+ซึ้ง ได้กลมกลืนดีอ่ะ ชอบๆ
คุณผู้หญิงนอกจากจะชอบคิดไปเองแล้ว.. ยังชอบตั้งเงื่อนไขให้กับตัวเองมากมายอีกด้วย.. เฮ้ออ
ซาโยะ
ชั้นกำลังอ่านอยู่เลย ส้มสื่อรัก น่ะ
ซื้อมาเดือนนึงละ เพิ่งจะได้ฤกษ์อ่านเนี่ย เอามาบินด้วย
แต่ยังอ่านไม่ถึงไหนเลยว่ะ เพราะต้องอ่านหนังสือditching อีกและ เบื่อสุดๆ
Post a Comment