Nov 10, 2007

-- ทีลอซู The Story --










 สิ้นแสงตะวันคืนวันพฤหัส หัวใจก็เต้นตุบๆ ดีใจที่จะได้หนีกรุงเทพไปฟอกปอดที่ทีลอซูซะที หลังจากรอคอยมานานทริปล่มไปตั้งแต่ตอนต้นปี
 จุดนัดหมายของทุกคนอยู่ที่ สถานีขนส่งหมอชิต

 หลงทางค่ะ ในหมอชิตนี่แหละ ใหญ่โตมโหฐาร เหลือเกิน นัดกันที่ศูนย์อาหาร แต่มีตั้งแต่เบอร์หนึ่งยันเบอร์สี่ เรียกเหงื่อสักนิด ก่อนเจอเพื่อนๆ
 สี่ทุ่มยี่สิบ ได้เวลาขึ้นเครื่อง เอ้ย ขึ้นรถทัวร์ กรุงเทพ – แม่สอด ป.หนึ่ง ซะด้วย เนื่องจากมีที่นั่งสองที่แยกออกจากกลุ่ม ได้จัดสรรที่นั่ง (โซนหน้าห้องน้ำ) ไปตามระเบียบ ทันใดนั้นก็เหลือบไปเห็นเด็กวัยหนึ่งขวบนิดๆ นั่งอยู่เบาะหน้า .... อ้าว -_-‘ ซวยละ
 นอนหลับอิ่มสบาย ตั้งแต่กรุงเทพยันแม่สอด รถเขาจอดให้ลงไปยืดเส้นยืดสาย เข้าห้องน้ำ เจ๊ก็ไม่ลง ห่วงนอนท่าเดียว ZZzzzzzzzz จริงๆ แล้ว คุณน้องเด็กก็มิได้เป็นปัญหาอย่างที่คาดการณ์ไว้ ปัญหาหลัก คือโรคคนชรา กระดูกหัวเข่าที่ใช้การไม่ค่อยได้ตามประสาสาวออฟฟิศนั่งทั้งวันยันกลับบ้าน เพราะไม่ได้ลงไปยืดเส้นยืดสาย พอถึงแม่สอด อาการคนแก่ก็กำเริบทันที อูยยยยยยย

 เมื่อถึงปลายทาง ไม่พูดไม่จากับใคร เพราะฟันยังไม่ได้แปรง สงบเสงี่ยมเรียบร้อยขึ้นมาทันที จากนั้นก็รู้สึกเหมือนอยู่ในสนามบิน มีเฮียคนขับรถกระบะสองแถว สองคันมารอรับ เพื่อไปดื่มด่ำกับอาหารเช้าที่ร้านเฮียขาหมูดีเค ..

 ก่อนประเดิมมื้อแรกที่จังหวัดตาก ขอล้างหน้าแปรงฟันก่อนสักนิด ถือโอกาสเอาเครื่องสำอางมาปล่อยเทสเตอร์ของฟรีให้เพื่อนๆ น้องๆ ได้ลองซะเลย อิอิ ฮาร์ดเซลส์มากๆ
 ต้มเลือดหมู ปาท่องโก๋ และโอวัลติน รสชาติปะแล่มปะแล่ม แปลกดี เฮียคนขายกวนมาก หนอยแน่มาเรียกเราว่าพี่ (มีเคือง) เฮียแกอารมณ์ดีตลอด คะแนนลูกค้าสัมพันธ์เอาเต็มสิบไปเลย เฮียมีเด็กชาวต่างชาติพูดไทยไม่ชัดอยู่ในสังกัดมากมาย สั่งอาหารรู้เรื่องมั่งไม่รู้เรื่องมั่ง เอาเหอะ กินอิ่มได้เป็นพอ
 รอบนี้กลุ่มเด็กวัยรุ่น(ตอนปลายสุดๆ ) มากันสิบสี่คน ผสมกับกลุ่มอื่นอีกสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งมีสองคน อีกกลุ่มหนึ่งมาคนเดียวกระเทียมลีบ รวมแล้วทั้งหมดสิบเจ็ดชีวิตกับแพคเกจทัวร์ทีลอซูรอบนี้ กินอิ่มปุ๊บ ก็ขึ้นรถเตรียมขึ้นดอยเต็มที่ เลยจัดการหม่ำยาแก้เมา เตรียมหลับบนรถซะเลย แต่......... ลืมอ่านตารางการเดินทางที่เขาเพิ่งจะอัพเดทกันไป รถเราต้องแวะเที่ยวน้ำตกพาเจริญก่อน กลายเป็นพาเอาสะลึมสะลือไปเลย คร่อกฟี้........
.

 น้ำตกพาเจริญ ก็สวยดีนะคะ แต่กลัวตัวเปียก เลยไม่มีใครโดดลงเล่นน้ำแต่อย่างใด

จริงๆ ตามหมายกำหนดการ พวกเรากะแวะที่นี่แค่ครึ่งชม.ตามบัญชาของพี่โชเฟอร์รถเรา เตรียมจะไปต่อกันแล้ว แต่ต้องมารอคุณพี่อีกคนนึง รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ เกือบหนึ่งชั่วโมงผ่านไป คุณพี่ถึงเพิ่งเดินกลับมา -_-‘ ทำให้คนอื่นรอนานๆ ไม่ดีนะค้า



 เฮียโชเฟอร์รีบทำเวลาบึ่งขึ้นดอย มุ่งสู่อุทยานแห่งชาติอุ้มผางทันที




-- หมู่บ้านกะเหรี่ยง --










นับรวมๆแล้ว (คนอื่นนับนะ) ก็พันกว่าโค้ง ฝนก็ตก กระเป๋าก็เปียก กีต้าร์(ของคนอื่น)ก็เปียก เย้ ชุ่มฉ่ำๆ หนาวสั่นดีจริงๆ
 มาถึงที่หมายคือ อุ้มผางฮัทคันทรีรีสอร์ท จัดแจงพักผ่อนเก็บสะเบียงสัมภาระ แล้วไปเที่ยวถ้ำตะโค๊ะบิ 



 จากนั้นก็ไปโดนหย่อนแถวตลาด ซื้อโปสการ์ดที่ขายพร้อมแสตมป์พร้อมที่รับฝากส่ง (บริการครบวงจรถูกใจมาก) ท้องเริ่มหิว เลยเปลี่ยนแผนหาของกิน เครปหมูหยองซอสพริกศรีราชา (รสชาติพิกลๆ) ไส้กรอกอิสาน ยาคูลท์ และ ฯลฯ (จะเล่าทำไมล่ะเนี่ย)



-- หมากพลู -- ... เกือบจะซื้อ แต่ใจไม่กล้าพอ







 กลับที่พักตั้งอยู่ริมน้ำเลย สวยสดชื่น เหมือนฉากในละครเรื่อง คุณหนูอารมณ์ร้ายกับผู้ชายปากแข็งที่แท่งกับแอน ทองประสมเล่น..... มันสวยจริงๆ น้า

 ที่พักก็ให้นึกถึงห้องนอนของนักเรียนประจำ ที่เป็นเตียงยาวๆ ติดกันๆ สองห้อง แยกหญิงและชาย รอบนี้มาข้างละเจ็ดพอดี แบบไม่มีเพศผสม ส่วนเรือนด้านหน้าที่หันติดกับน้ำ ก็เป็นทางเดินเชื่อมต่อกัน และมีห้องน้ำให้เลือกสรรใช้กันได้ตามสะดวกทั้งหมดสี่ห้อง ที่เซอร์ไพรส์ก็คือมีเครื่องทำน้ำร้อนด้วย แต่ใช้ได้กับห้องน้ำ แค่ห้องเดียว (เรื่องนี้ขอขยายต่อตอนจบ มีฮา)

 พอถึงเวลาทานอาหาร นั่งกินเป็นโต๊ะๆ แต่ก็ทานกันเสมือนเป็นบุฟเฟ่ต์ เพราะเดี๋ยวขอเขาเติมโน่นเติมนี่(ฟรี) ตลอด แค่คุณชายวรัญญู ณ อาร์เอส คนเดียว ก็ทานไปเท่ากับสามชีวิตแล้ว :P
 พอตะวันลับฟ้า กินอิ่มหนำสำราญแล้ว ก็ได้เวลาสันทนาการ ประเดิมด้วยไพ่ตบ เกมส์ซาดิสม์ที่ต้องการผู้ชื่นชอบความรุนแรง ชอบเจ็บตัว ทั้งจิกทั้งตบทั้งข่วนทั้งกรีดร้องเสียงดังสนั่นป่า เคล้าเสียงบทเพลงไพเราะๆ จากกีต้าร์สองตัว ขอขอบคุณ คุณเกาเต่า และคุณแชมป์ตุ่น ผู้สนับสนุนการเดินทางของกีต้าร์คลาสสิค และสายเหล็ก ต่อด้วยการ์ดเกมส์ Broken Hit ที่ขอขอบคุณเพื่อนร่วมวงทุกท่าน อิอิ เมื่อวงแตกแล้ว ก็ถึงเวลาของเกมส์สำคัญไฮไลท์ของงาน “โป้งไอ้หยา” กีฬายอดฮิตประจำตึกจุลฯ (เขียนเองเออเอง) ทดสอบความไว ไหวพริบ สติสัมปชัญญะ และเสริมความจำในการท่องสูตรคูณแม่สาม ห้าทุ่มครึ่งก็สลบเหมือดกันหมด

 เช้าวันนี้ไม่ต้องรีบตื่นนอน ไม่ต้องรีบไปทำงาน สดชื่น กับอากาศบนนี้ อาหารเช้าเป็นข้าวต้มกุ๊ย กินไป ดูการ์ตูนเรื่องโดราเอมอนไป ไม่ได้ดูช่องเก้าการ์ตูนมานานมาก อืมม สนุกดีแฮะ

 เก้าโมงตรง ทุกคนเตรียมไปล่องเรือ(ยาง) ที่ด้านหน้ารีสอร์ท ตัดใจกลัวกล้องพัง เลยสละกล้องไว้ไม่เอาไปด้วย วิวระหว่างทางธรรมชาติ หุบเขา หน้าผา ต้นไม้ การเดินทางคล้ายๆ กับการเล่น “แกรนด์แคนยอน” ที่ดรีมเวิร์ล เพราะมีทั้งน้ำเชี่ยว น้ำหยด น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา แต่วิวสองข้างทางนี่ ขอโทษทีค่ะ คนละเรื่องเลยธรรมชาติล้วนๆ เกือบสองชั่วโมงเต็มที่นั่งในเรือ จริงๆ แล้วไม่เสียดายเลยที่ไม่ได้เอากล้องมา เพราะดูแต่ตากับได้สูดอากาศตรงนั้น ก็สุดคุ้มแล้ว

 แวะขึ้นบกที่ไหนก็ไม่รู้ ตั้งใจทานข้าวกล่อง คุณพี่เตรียมข้าวกล่องเวอร์ชั่นถาดหลุมพลาสติค ล้างแล้วใช้ได้อีก ดีจริงๆ กินจนอิ่มพุงกาง แล้วก็เตรียมลุยต่อ ขึ้นทีลอซู นั่งรถค่อนข้างนานแต่ไม่รู้นานแค่ไหน (คงเกือบๆ ชั่วโมงมั้ง) ทางวิบาก พอให้ของที่กินเข้าไปแล้วได้กระโดดโลดเต้นบ้าง มีคนเตือนว่าสองข้างทางจะมีแต่ฝุ่นฟุ้งไปหมด โชคดีเป็นของเราอีกแล้วที่วันก่อนหน้านั้นฝนตก ฝุ่นก็เลยน้อยมาก แทบไม่ต้องใช้ผ้าปิดจมูกกันเลย (กรุงเทพฝุ่นแรงกว่านี้อีก)

 ในที่สุดเราก็มาถึง อุทยานแห่งชาติอุ้มผาง น้ำตกทีลอซู ก่อนเข้าเขาจะขอลายเซ็นเราก่อน (เอาไปทำไรก็ไม่รู้ ฮ่าฮ่า ลืมอ่าน) น้ำตกที่นี่ห้ามขายของ ห้ามนำสัมภาระติดตัวไป ทั้งของกิน ขวดน้ำ ฯลฯ ค่อนข้างเข้มงวดกับของที่นำเข้าไปข้างใน แต่เราว่ามันดีมากๆ เลย น้ำตกที่นี่เป็นน้ำตกที่สวยที่สุดเท่าที่เคยไป
โชคดีที่เขาเพิ่งเปิดอุทยานก่อนเราไปเที่ยวแค่ไม่กี่วันเอง
 (กี่โชคดีแล้วเนี่ย)

 หลังจากเดินๆๆ เกือบครึ่งชม.ก็มาถึงตัวน้ำตก

โอ้ว ภาพที่พวกเรายืนเงยหน้าดูเหมือนกับในฉากเรื่องจูราสสิคปาร์คเลย สวยจัง มีละอองน้ำ ยิ่งช่วงที่แดดส่อง ยิ่งทำเอาเอ๋อ เบลอ ตะลึงไปเลย ทันใดนั้นก็เหลือบไปเห็นมีคนจะคิดสั้น กระโดดน้ำตก (เหยย สูงเกือบเท่าตึกสามชั้น กล้าโดดได้ไง) และแล้วก็ได้เริ่มพิธีเก็บภาพ ไปโผล่กล้องโน้นที กล้องนี้ที ตามประสาคนงกกล้อง ไม่ยอมเอามาด้วย แหะๆ

 พี่ที่พาพวกเรามาก็พาเดินขึ้นไปเรื่อยๆ เพิ่อชมความงามของน้ำตกบนชั้นสูงๆ น้ำเย็นมากกกกค่ะ ขอบอก แต่พวกเราก็บ่ยั่น เดินไปขาสั่นไป ไม่ได้สั่นเพราะหนาว แต่สั่นเพราะกลัวลื่นตก

 เห็นป๋ายูกับหนูอิ๊กนอร์เขาไปนั่งบำเพ็ญเพียรใต้ม่านน้ำตกเลยอยากลองมั่ง แหะๆ เจ็บจี๊ดๆ เหมือนโดนเข็มแทง เลยเปลี่ยนใจดีกว่า ของบางอย่าง คนอื่นทำได้ เราก็ใช่ว่าจะทำได้อะเนาะ

 ตอนขาลง เตรียมจะไปเล่นน้ำตกอนุบาล แช่เล่น นอนเล่น ก็ผ่านไปตรงจุดที่เมื่อกี้เขาโดดน้ำกัน หันไปอำเล่นๆ ว่าอิอิ โดดมั่งดีกว่า (ไม่ได้ตั้งใจจะโดดเล้ยยย) อ่าว ปรากฎว่าแนวร่วมแสดงตัวกันใหญ่ทั้ง เอก อิ๊ก นัน ยู เจ๊ใหญ่อย่างเราก็กลัวจะเสียหน้า เอ้า โดดก็โดด บรื๋ออออ
 เผลอแป๊บเดียวก็โดดดึ๋งมานอนแอ้งแม้งอยู่ข้างล่างแล้ว เย้ มันส์แฮะ ขออีกรอบละกัน ทุกคนพร้อมใจกันเดินขึ้นไปเล่นกันอีกรอบ (เหมือนอยู่สวนสยาม พัทยาปาร์ค ตอนจะโดดสไลเดอร์)
 รอบสองนี่ ทำซ่า เดินโดยไม่ได้เกาะใคร อ่าวเฮ้ย น้ำมันแรง แง้ๆๆ จะตกแล้ว ช่วยด้วยยยย ใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม โชคดีที่น้องนันเกี่ยวแขนไว้ได้ ไม่งั้น คงได้โดดน้ำตกเวอร์ชั่นมีฮา ท่าประหลาดแน่ๆ โดดรอบสองใครว่าจะเหมือนรอบแรกคะ มันเสียวววววกว่ามากๆ รอบแรกพอได้ตำแหน่งเตรียมโดด ไม่ต้องนับ ก็โดดเลย แต่รอบสองนี่เจ๊ขอชมวิวก่อน ว้าว สวยจัง แต่พอมองลงไปข้างล่าง อืมม เหมือนมันจะสูงขึ้นๆ เรื่อย คนจะโดดตึกตายมันคงเสียวแบบนี้แน่เลย สุดท้ายตัดใจรีบๆ โดด เพราะน้ำเย็นมาก ชั่วขณะระหว่างลอยละลิ่วในอากาศมันมันส์ได้ใจจริงๆ (อธิบายเป็นคำพูดลำบากมากๆ ) โชคดีจริงๆ ที่ตัดสินใจโดด ไม่งั้นคงไม่รู้หรอกว่า สวนสนุกบนทีลอซูอยู่ที่ไหน :P แหะๆ เขาให้มาชมธรรมชาติ เจ๊มาโดดน้ำซะนี่ หลังจากสองรอบผ่านไป ผู้นำทาง บอกถึงเวลากลับแล้วครับ อ่าว กลับละ ? อืม กลับก็ได้ เวลาเล่นอะไรสนุกๆ นี่ทำไมมันผ่านไปเร้ว เร็วเนาะ
 พอหลุดออกมาจากเขตน้ำตก ก็แวะเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ๆ เขาจัดไว้ให้ด้านนอกก่อนโดดขึ้นรถ ถึงปลายทาง “ไร่ส้ม”
ก็เป่าผมแห้งพอดี ที่ไร่ส้ม ไม่ได้ทำไรเลย นอกจากถ่ายรูปอย่างเดียว จริงๆ แผนคือ รอกินส้มฟรี (haha งกจัดๆ เลยป้า)
รูปนี้เบลอๆ แต่ สนุกดี อิอิ


Orange load..




ก่อนกลับที่พักพวกน้องๆ ก็แวะซื้อเครื่องดื่มทำลายสติสัมปชัญญะ

เลิกหม่ำแล้ว แต่ป้ากลายเป็นสปอนเซอร์แทน (บาปไหมเนี่ยตรู)
 ถึงที่หมายก็เขมือบข้าวเย็นกันเต็มพิกัด จากนั้นแยกย้ายกันอาบน้ำ สันทนาการ วันนี้เป็นเกมส์ไพ่เรียกชื่อ (ทดสอบความจำ สมาธิ และสติปัญญา) คือ เกมส์นี้แพ้กระจาย พอตื่นเต้นหน่อย ไอ้ที่ท่องๆ ไว้ลืมเกลี้ยง แต่ก็สนุกมากมาย ต่อด้วย Seven-up เกมส์ยอดฮิตอีกหนึ่งเกมส์ ที่ไม่ต้องการอะไรมาก ขอแค่คนที่นับหนึ่งถึงเจ็ดได้เป็นพอ สันทนาการวันนี้ไม่ค่อยนานเท่าไหร่ เพราะหลายคนหมดสภาพป่วยบ้าง เพลียบ้าง ห้าทุ่มกว่าๆ ไฟก็ดับลง พร้อมเสียงกรนของใครบางคนจากห้องไหนก็ไม่รู้แยกไม่ออก
 เช้าวันสุดท้าย ตั้งหน้าตั้งตาตื่นกันตั้งแต่ตีห้าเพื่อไปชมพระอาทิตย์ขึ้นกันที่ดอย..........................ได้ยินเสียงดังโวยวายจากฝั่งห้องผู้ชาย สืบทราบมาได้ความว่า ห้องน้ำฝั่งโน้นที่คิดกัน(ไปเอง) ว่าเครื่องทำน้ำร้อนมันเสีย บัดนี้ใช้งานได้ปล่อยน้ำร้อนได้ตามปกติ เพราะคุณน้องปิงและน้องเอก ดันควานหาสวิตช์ไฟ จนพบกับเบรกเกอร์ตัวหนึ่ง พอลองกดทดสอบดู มันคือเบรกเกอร์ของเครื่องทำน้ำร้อน ฝั่งโน้นชายหนุ่มบัณฑิตวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิตทั้งเจ็ดท่าน (ได้ข่าวว่ามีภาคไฟรวมอยู่ด้วยสามคน) ก็ได้แต่อึ้ง และงง หลงคิดว่ามันเจ๊งมานาน จนมารู้เอาเช้าวันที่จะกลับว่า เครื่องทำน้ำร้อนใช้งานได้ haha สาวๆ ก็ได้แต่ขำ (แกมสมน้ำหน้า)


ระหว่างทางไปดอย ลืมเอาเสื้อกันหนาวไป เพราะคิดว่าคงไม่หนาว ที่ไหนได้ตอนอยู่บนรถ โอ้ว มาย ก๊อด ฟันแทบกระทบกัน โชคดีอีกแล้วที่ฝนตก (หรือโชคร้ายหว่า) บนดอยเลยไม่ค่อยหนาว ฝนก็ตกปรอยๆ บ้างหยุดบ้าง พอให้คนเอากล้องไปถ่ายรุปพอได้ลุ้น คุ้มจริงๆ ที่ได้ยืนดูรุ้งกินน้ำบนยอดดอยแบบเต็มวง แม้ผู้คนจะค่อนข้างหนาแน่น แต่ก็พอให้แทรกตัวมุดไปถ่ายรูปได้บ้าง

 ดวงตะวันโผล่ขึ้นฟ้าเต็มที่แล้ว ก็ได้เวลากลับที่พัก ทานข้าว อาบน้ำ เก็บของ วันนี้เวลาติดปีกเทอร์โบมากๆ เดินเร็วเหลือเกิน
 ขากลับจากบนดอยลงบนดิน อิ่มเอมกับวิวทิวทัศน์ได้มากกว่าขามา เพราะฟ้าเปิดฟ้าใส ฝนไม่ตกแล้ว ผ่านไปหลายชั่วโมง มาถึงดินได้กลิ่นอายของอากาศร้อนจัดมาทักทาย โอยยย ร้อนนนนนนนนนนน
 แวะเติมพลังหม่ำข้าวกันที่ปั๊ม ชอปปิ้งหาไรกินที่ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น ที่ไม่มีให้เห็นบนดอย
 นั่งรถต่ออีกเกือบชั่วโมงมาขึ้นรถที่ท่ารถจังหวัดตาก มาถึงสามโมงครึ่ง ก็นั่งรถป.สอง

รอบสามโมงครึ่งกลับกรุงเทพเลย นอนไม่หลับ เพราะฤทธิ์กาแฟสดทำพิษ -_-‘ เลยได้ดื่มด่ำเพลงลูกทุ่งที่คนขับเปิดซะดังสนั่นรถ ช่างเผื่อแผ่จริงๆ ค่ะพี่ มาถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพตอนเกือบสี่ทุ่ม
 อีกหนึ่งความประทับใจ ในทุกๆ สิ่งและทุกๆ อย่าง เที่ยวไกลๆ ต้องไปกันเยอะๆ ถึงจะสนุก เนาะ
 ขอบคุณเป็นพิเศษ สำหรับหน่วยกู้ภัยในน้ำ และบนบก แข็งแรง บึกบึนจริงๆ น้อง , ขอบคุณกีต้าร์สองตัวที่มีตุ่นและเต่าช่วยพาไปเที่ยวด้วย, ขอบคุณเสียงหัวเราะ และเรื่องขำๆ ทุกเรื่อง ทั้งที่ตั้งใจและไม่ไดตั้งใจปล่อย

โอกาสหน้าพบกันใหม่ สวัสดีทีลอซู


หมายเหตุ - รูปช่วงขึ้นน้ำตกทีลอซู ไม่ได้เอากล้องไป เลยขออนุญาตยืมรูปนันมาอีกที ขอบคุณนะจ๊ะ / หลายๆ รูปสีสันประหลาดๆ คือแบบว่าเจ้าของบล็อกตกแต่งรูปไม่เป็น ก็เอาไปสดๆ อย่างนี้จากกล้องแล้วกันเนาะ ฝีมือยังพัฒนาอยู่กับที่ทุกที เฮ้อ [^_^]


***********************************

Entertainment

Book : Vanity Fair

New music Class : Guitar Classic -- feels like back to the childhood again hohoho

1 comment:

Anonymous said...

ละเอียดยิบ กันเลยทีเดียว..เก็บมาเล่าได้ทุก Shotจิงๆนะเนี่ย

ไอ้คุณเกาเต่า และคุณแชมป์ตุ่น นี่มันดูเข้ากันดีจังเนาะ(แต่เกาเต่าฟังแล้วดูไม่ดีเท่าไหร่ 555)

ส่วนเรื่องเครื่องทำนําร้อนนี่...อย่าไปบอกใครเค้านะ