....และบังเอิญโชคดีซ้ำสองที่ได้วันหยุดที่
ฮอนโนลูลู (Honolulu)
ซึ่งนานๆ ทีปีหน ถึงจะได้วันหยุดที่นี่สักครั้ง
เมื่อโอกาสมาเยือน เข้ากับ
สมการ การเป็นแอร์ที่ว่า
ได้บินกับเพื่อน + มีวันหยุด = เที่ยวกระจาย
ก็หาทางที่จะเที่ยวทุก วิถีทาง
ถามคนโน้นคนนี้บ้างจนได้ข้อสรุปที่
" Sea Life Park "
http://www.dolphindiscovery.com/hawaii/
1 ในสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง 50 First Dates
เริ่มต้นเช้าวันใหม่
หลังจากพักผ่อนจากความเหน็ดเหนื่อยบนไฟลต์กลางคืนแล้ว
ก็ต่อด้วยอาหารเช้าแถวโรงแรม
ที่ให้คุณค่าทางอาหารสูงส่งอย่าง
McDonald -_-'
อิ่มท้องด้วยบิ๊กแมค เฟรนช์ฟรายส์และโค้ก
ซึ่งประกอบไปด้วยไขมันและคอเลสตอรอลหลายชนิด
จึงเริ่มออกเดินทางด้วยรถเมล์บนเกาะฮาวาย
ก่อนอื่น ขออธิบายว่า Hawaii คือชื่อหมู่เกาะ
และเป็นชื่อเกาะหนึ่งในหมู่เกาะฮาวายด้วย
เมือง Honolulu ที่เรายืนอยู่เนี่ย
ก็เป็นเมืองใหญ่ของเกาะ Oahu หนึ่งในหลายเกาะ
ของหมู่เกาะ Hawaii....จะงงมั้ยละเนี่ย
ค่ารถเมล์ไปกลับก็ 2 USD
ตอนแรกนึกว่าแป๊บเดียวถึง
ก็เลยคอยชะเง้อมองไปนอกรถอยู่เรื่อย
แล้วก็ถามทั้งคนขับ และผู้โดยสาร(เฉพาะที่หล่อๆ )
ว่าถึงหรือยังจริงๆกลัวหลงด้วย
เพราะไม่มีแผนที่ในมือมาซักกะเล่ม
มาเที่ยวตามคำบอกเล่าของชาวบ้านทั้งนั้น แหะๆ ....
ถ้าลงเลยป้าย นี่กลับโรงแรมไม่ถูกจริงๆนะเนี่ย
เผลอแป๊บเดียว ....ก็มาถึง
วิวตามข้างทางสวยมากๆ
เพราะเป็นถนนเลียบชายหาดมาตลอดทาง
(แล้วก็แอบงีบเป็นระยะๆ)นาฬิกาก็บอกเวลา
เที่ยงตรงพอดี
ได้เวลาอาบแดดกันแล้ว
โดดลงจากรถปุ๊บ
ก็เสียค่าเข้า คนละ 13 USD
ได้ลดราคาจากบัตรเบ่ง ได้แก่ บัตร ID
ของ Airline Staff
หลังจากดูเผนที่ และโปรแกรมโชว์ต่างๆ
เป็นที่เรียบร้อยก็ตกลง (แกมบังคับ) กับเพื่อน
ว่าจะดู Dolphin Cove Show กันก่อน
ข้าพเจ้าและเพื่อน ... กำลังรอชมโชว์ปลาโลมากันอยู่
ในสภาพที่เกรียมเกือบสุก เพราะกางร่มก็ไม่ได้
มันจะไปบังคนข้างหลัง
(ยังไงก็ไม่ได้เอามาแหละ อิอิ)
ที่นี่นอกจากปลาโลมา ก็มี นกเพนกวิน
ที่เดินตากแดดใหญ่เลยเพิ่งรู้นะเนี่ย ว่านกเพนกวิน
ก็มีพันธุ์ที่ไม่ต้องอยู่ในที่เย็นๆด้วย
นอกจากนี้ก็มี สิงโตทะเล แมวน้ำ เต่าทะเล ฯลฯ
พอเริ่มหิว ก็ได้เวลาหม่ำของโปรดเราแล้วล่ะ
มันคือ Funnel Cakeอาหารยอดฮิต
ในอเมริกาตามสวนสนุก (เพิ่งรู้ว่ามีในสวนสัตว์ด้วย)
แป๊บเดียวก็เกือบจะสี่โมงเย็นแล้วเลยมานั่งพัก
ผึ่งแดดจนเป็นเนื้อแดดเดียวไปแล้วก็เริ่มเอะใจว่า
นี่ตอนกลับต้องเสียเงินเพิ่มอีกสองดอลล์หรือเปล่าหว่า
ก็เลยหยิบเอาตั๋วรถเมล์มาพลิกหน้าพลิกหลังดูอ่านดีๆแล้ว
ปรากฎว่ามันเขียนไว้ว่าสามารถใช้เป็นตั๋วขากลับได้
แต่ต้องภายในเวลาที่กำหนดไว้อ้าว
มันฉีกตั๋วไว้ที่กลางเลข 16.00 พอดีเป๊ะ
แล้วรอบรถก่อนหน้านั้นคือ 15.50
ทีนี้ล่ะโกยแนบวิ่งหน้าตาตื่น
ทะลุผ่านร้านขายของที่ระลึกอย่างไม่สนใจใยดี
ผิดนิสัยของข้าพเจ้าเจ้าแม่ซื้อของที่ระลึก
อุตส่าห์เล็งไว้ตั้งแต่ตอนเข้ามาแล้วว่า
ต้องแวบ shop ซะหน่อย
พอออกมาถึงป้ายรถเมล์ปุ๊บ
ก็เห็น"ท้าย"รถเมล์กำลังวิ่งออกไป
โห เหนื่อยแทบขาดใจ
พอเห็นจังหวะรถเมล์เริ่มชะลอ
ก็คิดว่ามันต้องเตรียมจอดรับเราแน่เลย
แล้วมันก็ไม่ได้หยุด
กลับเร่งเครื่องอีก แล้วก็ชะลออีก
ทำให้อัตราการวิ่งของเราไม่ค่อยคงที่เท่าไร
เมื่อวิ่งไปได้สามรอบ
ก็ถึงได้ตรัสรู้ว่า
จริงๆแล้ว มันไม่ได้จอดรอเราหรอก
แต่ มันวิ่งผ่าน bumper
(บางคนก็เรียกว่ากับดัก,หลังเต่า)
เฮ้อ มิน่าล่ะ หลอกให้เราวิ่งตามซะจนเหนื่อย
สรุปก็เลยไปไม่ทันรอบ 15.50 แหละ
ก็เลยนั่งรอกับเพื่อนด้วยความรู้สึกที่
รักออกซิเจนในอากาศขึ้นมาไม่รู้ตัว
แล้วรถรอบ 16.00 ก็มาถึง
พอก้าวขึ้นไปบนรถก็ยิ้มหวานให้คนขับรถรูปร่างตุ้ยนุ้ย
พร้อมกับยื่นตั๋วให้แล้วก็ถามว่า
ขึ้นรอบนี้ได้มั้ยเขาก็บอกว่า จริงๆ แล้วน่ะไม่ได้
อ่าว ซวยละ
เอามุขนี้ดีกว่า
"ได้โปรดเถอะค่ะพี่จริงๆ หนูตามรถรอบเมื่อกี้ทันแล้ว
แต่วิ่งตามไม่ทัน เนี่ย เลยหอบแฮกๆเลย"
(ในใจเราคิดเป็นภาษาไทยอย่างเงี้ยแหละ
แต่ก็ไม่รู้ว่าไอ้ที่ปากพูดออกไปในภาษาอังกฤษ
มันจะแปลได้แบบนี้มั้ย แหะๆ)
คนขับรถก็ยิ้มๆ แล้วก็บอกว่าโอเค
ยูเข้าไปข้างในเลยเย้ๆๆ ในที่สุด มารยาหญิงก็ครองโลก 555
มุขเดียวกะที่เคยอ้อนลุงตำรวจเมื่อสามปีที่แล้ว
ใครคิดว่าเป็นชายแท้
อย่าได้คิดเลียนแบบนะ
เพราะมันจะให้ผลในทางกลับกัน
แต่ช้าก่อน นึกว่าจะได้พักเหนื่อย บนรถแอร์เย็นๆ
หันซ้ายหันขวาทำไมกลิ่นรถคันนี้มันตุ่ยๆละเนี่ย
หันไปทางซ้าย ก็เจอป้าแก่ๆแต่งตัวโทรมๆคนนึง
เลยลองเดาด้วยความไม่มั่นใจว่า
น่าจะมาจากป้าคนเนี้ยแหละ
สงสัยไม่ได้อาบน้ำมาเกือบปีแล้ว
เลยลากเพื่อนไปนั่งหลังสุดของรถ
แต่กลิ่นอ่อนๆ ก็ยังตามโชยมาถึงข้างหลังได้ แหวะ
หลังจากนั้นไม่นาน ผู้โดยสารก็ทยอยๆ ขึ้นรถมา
จนเกือบเต็มทุกคนมีอาการเดียวกันหมด คือ
หันซ้ายหันขวา แล้วปิดจมูก
ใครนั่งใกล้ป้าคนนั้นก็ซวยหน่อย
แสดงอาการมากหน่อยหน้าต่างรถก็เปิดไม่ได้ เฮ้อ
....(ได้กลับรถฟรีแล้วยังจะมาบ่นอีก คนเราเนี่ย)
1 ชม.ผ่านไปก็มาถึงที่พักโดยสวัสดิภาพเย้ๆๆๆ
ได้เที่ยวฮาวายจริงๆจังๆ เป็นครั้งแรกสนุกจริงๆเลย
แถมตังค์ที่เผื่อไปชอปปิ้งก็อยู่ครบ
เป็นผลบุญจากความเลินเล่อไม่อ่านตั๋วรถเมล์ให้ดีๆ
ความซวยในบางเรื่อง ก็ทำให้เกิดโชคลาภกับสิ่งอื่น แบบไม่ทันตั้งตัว
No comments:
Post a Comment