Nov 10, 2005

( Narita + Brisbane )x 2

กลับมาแล้วแหละ เหนื่อยจัง บินไปบินมา ไปกลับ นาริตะ - บริสเบน (ออสเตรเลีย)
ตั้งสองรอบแต่ก็โชคดีที่ได้บินกับเพื่อน เลยไม่เหงา
รอบนี้ได้กระหน่ำใช้ Entertainment Kit เต็มที่เลย
Entertainment Kit =
อุปกรณ์เสริมความสุขสำหรับอาชีพแอร์
มีไว้เพื่อกำจัดความเหงา และช่วยฆ่าเวลาอยู่คนเดียว
แต่หากใช้เมื่ออยู่กับเพื่อนๆ
จะส่งเสียงหัวเราะ และความสุขได้มากเป็นพิเศษ
ได้แก่ เครื่องเล่น DVD / หม้อไฟฟ้า /
เครื่องเล่น mp3 ขนาดพกพา / Gameboy Advance /
หนังสือ / นิตยสาร / diary /
แผ่นหนัง DVD,MP3 ละครชุด ตลกคาเฟ่ คอนเสิร์ต
คืนแรกที่ไปถึงนาริตะเหมือนปาฏิหาริย์
รวมเพื่อนๆได้มากมายถึง 11 คน
ห้องพักเล็กๆของเรา เลยอัดแน่นไปด้วยเพื่อนๆ
และบรรยากาศคอนเสิร์ตพี่เบิร์ด Volume 1
เม้าท์ไป ดูคอนเสิร์ตไป เจี๊ยวจ๊าวดีจริงๆ
กลัวอยู่อย่างเดียว ก็เรื่องที่พี่ห้องข้างๆจะโทร.มาด่า
เคยมาแล้ว ... จ๋อยไปเลยตอนนั้น..
(ตอนนั้น นั่งเล่นไพ่ตบ กับเพื่อน 5 คน
เสียงมันจะค่อยได้ยังไง
..เล่นกันตอนสองทุ่ม ยังโดนโทร.ด่าเลย
เลยเปลี่ยนไปตบดัมมี่ กับหนูมิ้งค์แทนสองต่อสอง)
โรงแรมที่ญี่ปุ่นและออสเตรเลีย
เปลี่ยนทีวีเป็นแบบจอแบนแล้ว
น่าหิ้วกลับบ้านจังเลย (แหะๆ )
ตั้งแต่เป็นแอร์มาเกือบปี
ได้รู้ซึ้งถึงความสำคัญของ การนอน
ก็ตอนที่ต้องบินไฟลต์ที่ถึงเช้าๆเนี่ยแหละ
ไฟลต์แรก ที่ต้องทำรอบนี้ Narita - Brisbane
เครื่องออกจากญี่ปุ่นกลางคืน แลนด์ตอนเช้า
ถึงที่พักก็นอนตอน 9 โมง
ตื่นมาบ่ายสาม
ออกไปหาอาหารในเมือง
ตกกลางคืน ข่มตานอนตั้งแต่สามทุ่ม
กลิ้งไปกลิ้งมา
ทำสมาธิก็แล้ว เปิดเพลงก็แล้ว
ทุบหัว ขยี้หัวตัวเองหลายที ก็ไม่หลับ
กว่าจะหลับ ปาไปตี 2 .... นอนได้สามชั่วโมง
ฟ้าสว่างจ้า
ตื่นมาตี 5 เพื่อเตรียมจะบินกลับญี่ปุ่น
พอเข้าบริสเบนรอบสอง เปลี่ยนแผน
คราวนี้ก่อนนอน ดู Lord of the Ring ที่ยืมเพื่อนมา
เกือบสามชม. ต่อด้วยโด๊ปยาแก้เมา อีกเล็กน้อยเพื่อให้นอนหลับ
(นานๆ ทีจะกินทีแหละ)
ทีนี้หลับปุ๋ยตั้งแต่สี่ทุ่มยันเช้าเลย ตื่นมาตี 5 ที่ออสเตรเลีย
สว่างเหมือน 8 โมงเช้าบ้านเรา
เลยนั่งจิบกาแฟ จากชั้น 10 ของโรงแรม ชมวิว(ด้วยตาบวมๆ)
รอบๆเมืองบริสเบน สวยจัง
ได้เวลาเริ่มต้นไฟลต์ทรหด 8 ชั่วโมงรวด
เพื่อกลับนาริตะ ผู้โดยสารไม่หลับไม่นอน
แอร์ก็บริการให้เต็มที่จริงๆ
เจอคุณยายคนจีนมากับหลานตัวเล็กนิดเดียว
พูดเป็นอยู่ภาษาเดียวคือภาษาจีน -_-' เอ่อ
........ ภาษาใบ้อย่างเดียวเลยงานนี้
เหนื่อยสุดก็ตอนถาม choice อาหาร
ว่าจะเอาไก่ หรือว่า พาสต้า
เปิดฝาให้ดูเสร็จ ยายก็ชี้ไปที่เนื้อไก่
แล้วก็ทำท่างงๆ
แอร์สวยๆอย่างเราก็ต้องยกแขนขึ้นมาทำท่า"สาระแน"
กระพือปีกเสร็จ คุณยายก็ถึงบางอ้อ ...
สื่อสารกันรู้เรื่องด้วยแฮะ
ส่วนคุณหลานน่ารัก ก็จัดของเล่นให้หายเบื่อไปอีกนาน
... 8 ชั่วโมงทรหดผ่านไป
มาถึงนาริตะโดยสวัสดิภาพ
โชคร้าย หรือโชดคีไม่รู้
ตอนนั่ง jump seat
เก้าอี้ของแอร์ที่เวลานั่งต้องหันหน้าหาผู้โดยสาร
แต่เก้าอี้นี้ jump ไปไหนไม่ได้นะ)
ต้องนั่งกับป้าแอร์ญี่ปุ่นร่างยักษ์ เสียงใหญ่คนหนึ่ง นิสัยประหลาด ........
แรกๆแอบรำคาญ แต่สังเกตไปนานๆ นี่ก็แทบกลั้นหัวเราะไม่ไหว
รายละเอียดขออุบไว้ดีกว่า ยังไม่อยากให้เวปนี้เป็นเวปเม้าท์คนอื่น
(แต่ก็เล่าไปเยอะแล้วนี่เนาะ แหะๆ )
งานของแอร์ไม่ได้จบที่การเดินลงจากเครื่องแล้วก็กลับโรงแรม นอน
......... รอบนี้ ต้องลากกระเป๋าหนัก 20 โล (บ้าขนมาทำไมตั้งเยอะไม่รู้)
เดินระยะทางประมาณเกือบกิโล เข้าบริษัท เพื่อให้ Chief Perser พูดว่า
..... otsukaresama deshita คำเดียว ...
(แปลตามภาษาละครญี่ปุ่นว่า ขอบคุณในความเหนื่อยนะ)
.... แล้วก็ลากกระเป๋ากลับ
ในระยะทางเท่าเดิมเพื่อไปรอขึ้นรถ
ช่วงนั้นเนี่ย จะเอ๋อมากๆ ใครชวนไปไหน คงไปด้วยแล้ว
ถามได้แต่ตอบไรไม่ได้แล้ว
เพราะมึนๆ ......... เหนื่อยจัง ............................
พอเข้าโรงแรมแล้ว หาได้นอนพักเลยไม่
อิอิ ก่อนอื่นต้องเช็คชื่อเพื่อนๆ
(เพื่อนในที่นี้หมายถึงเพื่อนที่เทรนมารุ่นเดียวกันมีทั้งหมดประมาณ 35 คน)
ที่พักอยู่ที่โรงแรมเดียวกัน จดชื่อห้อง แล้วก็เตรียมโทร.ไปจิกให้มารวมตัวกันเม้าท์
.... (งานหลักเลยนะเนี่ย) แต่ปรากฏว่ามีแค่สองคน รวมกับเราที่บินมาอีกสอง
อืม ก็เยอะใช้ได้แล้วแฮะ บางครั้งต้องบินมาคนเดียวแบบไม่รู้จักใคร
แถมไม่เจอเพื่อนอีก งานนี้ต้องพึ่ง entertainment kit อย่างเดียวเลยแหละ
กินข้าวไปด้วย นั่งดูคอนเสิร์ตกับเพื่อนๆไปด้วย อบอุ่นดีจังเลย
..เวลาผ่านไปไม่นาน หนังตาก็เริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ
ได้เวลาขอตัวไปนอนหลังจากนอนก่อนบินมาแค่สามชม. .........Zzzzzzzzzzz
หลับสนิทตั้งแต่ห้าทุ่มถึงบ่ายโมงครึ่ง แบบ Non-Stop
(แถวบ้านเรียก นอนกินบ้านกินเมือง)
วันนี้วันหยุดแหละ เลยฝ่าลมหนาว แวบนั่งรถฟรีของโรงแรมไปเดินห้างเล่น
ยืนเกาะกระจกดูกล้อง Ixy700 ที่เล็งไว้
.. ขอไปหยอดกระปุกก่อนนะ แล้วจะมาซื้อไปเลี้ยง
กล้องที่มีอยู่อัดรูปออกมาทีไร เป็นผีเบลอๆ ทุกที
(โทษกล้องอีกแฮะ) ........
กลับโรงแรมมาคราวนี้เจอเพื่อนอีกสาม
โห ... เตรียมตัว จัด Big Party .... กว่าจะได้นอนก็เกือบตี 3 -_-'
ก่อนนอน P.J หอบผ้าห่มมาขอนอนด้วย :)
ได้เตียงห้องคู่ก็ดีเงี้ยแหละ ลากเพื่อนๆมานอนด้วยได้
......... ตื่นมา เพื่อนๆ ก็กลับกรุงเทพกันไปหมด
เฮ้อ อิจฉาจัง .........
ทำไฟลต์บริสเบนอีกรอบ ก็ไม่ได้ไปไหนตามเคย
เล็งไว้แล้วแหละ รอบหน้าถ้าได้มาอีก จะไปเที่ยว museum ที่อยู่ใกล้ๆโรงแรม
... กลับบ้านด้วยสภาพหมีแพนด้า เพราะนอนไม่พอ ได้นั่งเป็นผู้โดยสารกลับบ้าน
ไม่ต้องทำงาน แต่รู้สึกเหนื่อยกว่าเวลาทำงานอีก เพราะอึดอัดมากๆ โดนหย่อนหลุม
(=นั่งตรงกลางระหว่างผู้โดยสาร) จะทำไรก็หงุดหงิดไปหมด
ตอนแรกว่าจะเอาหนังสือสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นมาอ่าน
แต่กลัวว่าคนญี่ปุ่นข้างๆจะรู้ว่า ลายมือเราห่วยและเขียนผิดเยอะแค่ไหน
สุดท้ายเลยต้องเปิดหนังดู นั่งดูหนังญี่ปุ่น โรแมนติค เรื่อง Train Man มาดู
อ่าว ปรากฎว่าขี้มูกโป่งไปแล้ว ดูแล้วก็เข้าใจอารมณ์คนติดเน็ทจริงๆแฮะ
ในที่สุดก็ถึงบ้านซะที เฮ้อ ..........
คิดถึงบ้าน
ป.ล การเอาของเข้า-ออก กระเป๋าบ่อยๆ เกือบทุกวันเนี่ย มันเริ่มไม่สนุกแล้วแหละ

2 comments:

Oakyman said...

IXY700 ใหญ่นะ
แนะนำ IXY55 ตอนนี้ราคาตกแล้วด้วย
แค่ 28000 เยน (อาจจะถูกกว่านี้)

ทำไม Entertainment Kit ถึงมีหม้อไฟฟ้าด้วยหละ

Sayo said...

อืม .....

จริงๆ ลองใช้ของเพื่อนดูแล้ว

ครั้งแรกก็ปิ๊งเลย (แอบปิ้งจอ LCD)

ทรายเฉยๆ กับ IXY 55 อะ

ไม่รู้ดิ ลองใช้แล้ว ไม่ค่อยติดใจ


(ตกลงเลือกกล้องหรือเลือกคู่ก็ไม่รู้แฮะ)