Nov 11, 2005

B. Book

คราวนี้พูดเรื่องหนังสือบ้างดีกว่า
วันก่อนหยิบนิตยสารสารคดีที่เพิ่งเปิดตัวใหม่
ชื่อ "ค.คน magazine "
(เพิ่งได้สังเกตว่า ตัวอักษร ค คน ไม่มีบนแป้นพิมพ์แฮะ)
ค.คน นิตยสารที่คิดว่า
ไม่อยากอ่านให้จบภายในวันเดียว เลยพกไปบินด้วย
อ่านวันนึงเรื่องนึง คิดอะไรได้เป็นล้าน
อยากบอกว่า เป็นหนังสือที่ดีจริงๆเล่มนึงเลย....
ไว้รอเล่มสองเล่มสามออกมาเรื่อยๆ แล้วจะมาเล่าให้ฟังใหม่
ก็แค่อยากให้ลองอุดหนุนหนังสือประเภทนี้กันบ้าง
มองไปที่แผงหนังสือสมัยนี้ มีแต่ magazine ไรก็ไม่รู้เยอะแยะ
โฆษณาทั้งเล่ม ถ้าไม่ใช่โฆษณาตรงๆ ก็เป็นโฆษณาอ้อมๆ
เอาดารา คนดังมาคุย เพื่อขายสินค้า .....
ก็รู้ๆอยู่ว่าเขาไม่ได้พูดเองหรอก เจ้าของสินค้าน่ะเขียนบทสนทนาให้เลย
ส่วนนิตยสารดีๆ บางเล่มเช่น OPEN ต้องเลิกทำไป เพราะทนขาดทุนไม่ไหว
เสียดายเนาะ ... อ่านมาตั้งนานแล้วก็หายไปเนี่ย ...
ยังดีที่สำนักพิมพ์ openbook
ยังไม่หายไปไหน ยังคอยพิมพ์หนังสือ pocket book
ดีๆให้อ่านอยู่เรื่อยๆ ...
เล่มที่ชอบที่ชอบ ก็เวอร์ชั่นที่เป็นรวมบทความของ วรากรณ์ สามโกเศศ
First-Best-Different-Niche
เขียนดี เข้าใจง่าย ทุกเล่ม สนุกดีแหละ :)
Flashback :
รู้สึกว่าโชคดีกว่าคนอื่นตรงที่เกิดมาบนกองกระดาษ กองหนังสือ
มีหนังสือฟรีๆ ดี ๆ ให้อ่านตั้งแต่ประถม ....
ตอนเด็ก
คลั่งไคล้หนังสือประเภท นิทาน เทพนิยาย ยิ่งพวกนิทานไทย
ที่เป็นเล่มบางๆ การ์ตูน ... สุดสาคร จันทโครพ
ชอบไปยืนอ่านฟรีที่ร้านจนจบเป็นประจำ
จนติดเป็นนิสัยไปจนโต เวลาไปตามร้านหนังสือ
ก็ยืนอ่านหนังสือที่ตัวเองไม่มี ยืนอ่านจนจบเล่ม แหะๆ ไอ้งก)
อ่านตั้งแต่เทพนิยายกรีก กริมม์ แอนเดอร์สัน สก๊อต จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ฯลฯ
หนูน้อยราโมนา(ทั้งชุดตั้งแต่เด็กยันโต) มาทิลด้า แม่มด
สำนักพิมพ์ดอกหญ้า ประพันธ์สาส์น .....
รวมทั้งพวก ขายหัวเราะ มหาสนุก ก็ติดงอมแงม
พอขึ้นมัธยม โตขึ้นหน่อย ก็เริ่มติดนิยายเล่มโตๆ
ความรักหวานแหวว พระเอก นางเอก
ของกิ่งฉัตร ว.วินิจฉัยกุล ว.ณประมวญมารค ฯลฯ
แต่เราไม่ชอบนิยายของทมยันตีแฮะ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
ก็อ่านไปเยอะแล้ว แต่สำนวนเขียนของทมยันตีดูมันเลี่ยนๆ
เว่อร์ๆไงไม่รู้ (ใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ทมยันตี ก็ขออภัยน้า)
กลางคืนไม่หลับไม่นอน อ่านเข้าไปจนตาแฉะ
โชคดีที่สายตาไม่สั้น(ข้างนึง) แต่อีกข้างสั้นเกือบสองร้อย
แปลกอย่างที่ไม่ติดการ์ตูนญี่ปุ่น ซักเท่าไร
(เพราะตอนเด็กๆขี้งกมาก)
ติดอยู่เล่มเดียวคือ โคนัน ยืมเพื่อนอ่านตอนม.5
หลังจากนั้น ก็ซื้อมาตลอดจนทุกวันนี้ (ยังไม่จบซักทีเฮ้อ)
เคยซื้อเวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่นมานั่งแกะ
แต่ไม่ไหว ยิ่งอ่านยิ่งงง
เป็นคนอ่านหนังสือเวอร์ชั่นภาษาอื่นๆไม่ค่อยได้
เหมือนนั่งดูทีวีขาวดำ (เกือบเข้าใจนะ แต่ก็ไม่เข้าใจ)
ตอนนี้ เลยยังนั่งรอ นอนรอ
เมื่อไรแฮร์รี่พอตเตอร์เล่มใหม่จะแปลเสร็จซะทีเนี่ย ฮึ่ม
(รอนานแล้วนะค้า)
เข้ามหาลัย
ก็เหมือนเปิดอีกโลกนึงของหนังสืออีกแบบเลย
ทั้งวรรณคดีไทย หนังสือที่ได้รางวัลทั้งหลาย
หนังสืออ่านนอกเวลาภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
โห ..... แต่รู้สึกเหมือนโดนบังคับให้อ่านประกอบการเรียน
ก็เลยกลายเป็นช่วงที่สนิทกับหนังสือน้อยลง ...
ส่วนตัวแล้ว ไม่ค่อยชอบอ่านวรรณคดีไทย เท่าไร
(อ่านแต่เรื่องย่อมาจนชิน)
หรือจะเป็นเพราะไม่ค่อยชอบและไม่ชินภาษาแบบร้องกรอง ...
พอตอนสอบต้องท่องวรรคทอง แล้วก็เขียนเป็นหน้า
...ไม่รู้จะเริ่มจำด้วยวิธีไหน ก็เลยไม่จำ
แล้วก็ไม่ได้เขียนตอบในข้อสอบ .... (what a bad student!)
มีห้องสมุดที่อลังการที่สุด ในมหาลัย
แต่กลับไม่ใช้ให้เป็นประโยชน์เท่าที่ควร
วันๆเอาแต่ยืมหนังสือเด็กๆ ไปอ่าน (ฮ่าๆ)
เด็กหญิงโต๊ะ โตะ จัง (เล่มนี้อ่านแล้วอมยิ้มตลอดเวลา)
แล้วก็ของ โรอัลด์ ดาห์ล .... คนนี้นี่ไม่ไหวแล้วนะ
ยิ่งอ่านยิ่งติด .. ชอบสุดก็ มาทิลด้า กับ แม่มด
จากนั้นก็เริ่มคลั่งไคล้พี่วินทร์ เลียววาริณ / ชาติ กอบจิตติ
บ้างแล้ว หลังจาก เคยหยิบพันธุ์หมาบ้าของชาติมาอ่าน
สมัยเรียนมัธยม แต่ไม่รู้เรื่องเลย กลับมาอ่านอีกที
ช่วงมหาลัย คราวนี้ติดงอมแงม อ่านรวดเดียวจบ
ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
ความรู้สึกอยากอ่านหนังสือมันจะเยอะเป็นพิเศษ
ก็ช่วงที่อยู่คนเดียวเนี่ยแหละ
พอเรียนจบ
เรียนจบแล้ว .... ว่างแฮะ ...
ได้งานแล้ว แต่ก็รอเขาเรียกไปเทรน ....
ระยะเวลา 6 เดือนเต็มๆที่รอ ก็ฆ่าเวลา
ด้วยการอ่านหนังสือแปล(แล้ว)ซะส่วนใหญ่
(พ่อแม่ก็บ่นอยู่ ว่างานการไม่รู้จักมาช่วยกัน)
เริ่มจาก หนังสือ Best Seller ..
ทุกเล่มของ Dan Brown
(แอบเชียร์ให้แม่อ่านด้วยกัน
พอแม่เริ่มติด ก็ขอเงินแม่ซื้อเล่มต่อๆไป อีกแน่ะ)
Shopaholic / Ring / Spiral / Loop
สยองขวัญ ระทึกขวัญ กุ๊กกิ๊ก ฯลฯ
เมื่อบริษัทเรียกไปเทรนปุ๊บ
ช่วงระยะเวลา 5 เดือนเต็มๆที่หนังสือหายไปจากชีวิต
วันๆเอาแต่เทรน เอาแต่เรียนๆๆๆๆๆ ท่อง และจำ.. และสอบ
(อะไรก็ไม่รู้ เยอะแยะมากๆ)
พอเริ่มบิน ได้อยู่คนเดียว ณ ต่างแดนมากขึ้น
หนังสือก็กลับมาเป็นเพื่อนแก้เหงาเหมือนเดิม
คราวนี้ได้อ่านหนังสือประเภทที่ไม่เคยหยิบมาอ่านเลย
หนังสือของสำนักพิมพ์ openbook / typhoon
หนังสือเพื่อมวลชน หนังสือเพื่อชีวิต .....
ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงเพิ่งจะมาอ่านตอนนี้เนี่ย
ตอนเรียนมหาลัย ไม่รู้จักหยิบมาอ่าน
ไม่งั้นคงใช้ประโยชน์ได้มากกว่านี้
(รู้สึกเหมือนโตผิด step ยังไงไม่รู้)
หนังสือที่เปิดอีกโลกนึงให้กว้างขึ้น โลกที่สำรวจความคิดตัวเอง
ชีวิตและความคิดคนอื่น ค้นหาอะไรสักอย่าง .......
ไปถึงหนังสือฟื้นฟูจิตใจ
ความรู้สึกเวลาอ่านหนังสือพวกนี้จบ จะเหมือนพวกบ้าพลัง
อยากทำโน่นทำนี่ ให้ได้เหมือนในหนังสือ
แต่..ทำไม่ได้แฮะ...
ไม่เป็นไร ปลอบใจตัวเอง
........สักวันนึงแหละ.......สักวัน.....สักวัน ...Zzzzz

1 comment:

Oakyman said...

สมกับเป็นเด็กอักษร

ยังไม่เคยอ่านของชาติเลย
แต่ชอบของวินทร์มาก