......................
6 โมงเช้า .... กดปิด ตั้งเวลาใหม่ กดปิด ตั้งเวลาใหม่ กดปิด ตั้งเวลาใหม่ .... .........
ไม่มีสิ้นสุด ... ผ่านไปครึ่งชั่วโมง เพิ่งได้ฤกษ์บิดขี้เกียจลุกจากเตียงซะที
ป.ล1 ว่ากันว่า ไม่ควรตั้งมือถือไว้ที่หัวเตียง เพราะจะส่งคลื่น (ไรไม่รู้) ไปรบกวนสมอง
ซักส่วน แต่..เราจะวาง เพราะ ..เหตุผลข้างต้น ดังที่กล่าวมาแล้ว
วันนี้มีเทรนที่ CTO (ชื่อคล้ายๆ การ์ตูนเลยแฮะ)
หัวข้อ " Service Manner " ค่ะ
เฮ้อ เซ็ง จะเอาวันหยุดเราไปทำมายยยยย
Point วันนี้สำหรับการเป็นแอร์ที่ Smart, Beautiful & Elegant นะคะ
(โห .... ห่างไกลมาก)
ใครอยากเอาไปใช้ก็ได้นะ.. เราว่า มันก็ใช้ได้ทุกอาชีพแหละ
ที่สำคัญอย่าลืม Eye Contact นะคะหนูๆ .......... เวลาคุยกะใครก็สบตาเขาด้วย
Basic Service Standard : Greeting, Facial Expression, Appearance, Speaking, Attitude
" Heart + Manner + Team Work = Good Service"
ก็ดูน่าสนุกดี ... เทรนพร้อมกับรุ่นพี่และรุ่นน้องที่สุ่มมาเจอกัน
555 แต่โยะเอ๋ย
พอเข้าไปบริษัทกำลังจะเซ็นชื่อ ...อ้าว
ทำไมข้างหลังชื่อเรามันอยู่ในกลุ่มพวก B ละเนี่ย
พี่คะ .. นี่แปลว่าไรคะ
"อ๋อ ก็เทรนตอนบ่ายไงจ๊ะ "
เหมือนสายฟ้าฟาดลงมาที่กลางใจน้อยๆ
เฮ้ยยยยยยยยยยย (จริงๆไม่ได้พูดเพราะขนาดนี้นะ 555)
ทำไมซวยอย่างนี้เนี่ย เสียดายเวลาหลับสบายๆ บนเตียงน้อยนุ่มๆ
โชคดีที่บริษัทไม่ได้ใจร้ายกับเรานัก
" แต่น้องก็เทรนตอนเช้าเลยก็ได้ "
"เฮ้อ( ค่อยยังชั่ว ........ นึกว่าต้องกลับบ้านไปรอบนึงก่อนซะแล้ว)
เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ....
ตอนเทรน Service Manner ก็มีการถ่ายวิดีโอแต่ละคน
จำลองท่าทางตอนทำงานบนเครื่องบิน
แล้วมาให้ Commentator วิจารณ์กันทั้งห้องว่าเป็นยังไง
หลังค่อมไหม / ยิ้มน้อยไป / ท่าเดิน / วิธีมองผู้โดยสาร /
speed การบริการ / ท่า Landing ของแก้วน้ำเวลาเสิร์ฟ /
timing การพูด การโค้ง/ท่ารัด Belt เวลานั่ง Jump Seat ฯลฯ
(พี่สอนไว้ว่า ไม่ควรทำท่าเหมือนกำลังจะแบกเป้ เท่ไปน้อง ...
เป็นแอร์ต้องสวยตลอดเวลา)
แล้วก็มีการฝึกส่งสายตา (เพื่อขอเบอร์) ต่อผู้โดยสารอีกแน่ะ
พวกเราต้องทดลองในห้อง Mock-up เดินในทางเดิน ระหว่างที่นั่งผู้โดยสาร
เดินผ่านเก้าอี้เปล่าๆ เกือบ 50 ตัว เพื่อทำเป็นจ้องหน้า แล้วยิ้มให้
(ใครจะไปยิ้มออกง่ะ ... )
สุดปลายทางเดิน จะมีกล้องวีดีโอตั้งรออยู่
มองไกลๆ เหมือนกำลัง Test หน้ากล้อง
Next Life Top Model เลยแฮะ (ยืมชื่อมาจากรายการตลกรายการหนึ่ง ซึ่งจำไม่ได้แล้ว 55)
เขินก็เขิน เกร็งก็เกร็ง มันเลยผิดไปหมดเลยง่ะ ........
พอถึงตาเรา โดนเข้าไปเต็มๆครับ คนอื่นเขาถ่ายวีดีโอกันแค่รอบเดียว
ยายนี่ถ่ายแล้วถ่ายอีกปาเข้าไปสามสี่รอบ เพราะผิด / เอ๋อ / ซุ่มซ่ามตลอด
ท่า Land ของแก้วน้ำ ก็เหมือนกัปตันญี่ปุ่นมากเกินไป
Land แรงๆ ไม่นิ่มนวลเหมือนเวลากัปตันฝรั่งเอาเครื่อง Land
ไม่เนี้ยบเลยน้อง .... :( อายซะ ...
ไม่ชอบมองตัวเองในทีวีเลยอะ
ตอนพี่เขาเปิดมาวิจารณ์ แทบจะปิดตาไม่อยากดูตัวเองเลย
มันเหมือนผีลอยไปลอยมาอยู่ในทีวีสุดๆ
ชอบดูภาพนิ่งๆของตัวเองมากกว่าภาพเคลื่อนไหวแฮะ
(อิอิ เพราะไม่ขึ้นกล้องอย่างแรง) ดูรูปถ่ายเนี่ย รูปไหนอุบาทว์มันก็ลบทิ้งได้เลย
แต่รูปเคลื่อนไหวเนี่ย -_-'
สงสัยชาติก่อนเกิดเป็น Narcisus แน่ๆเลย ถึงได้เป็นกังวลกะตัวเองซะขนาดนี้
ต่อด้วยการฟัง อะไรอีกยืดยาว เกี่ยวกับ มารยาท และการเป็นแอร์ที่ดี
จริงๆ คอร์สนี้มีจุดมุ่งหมายแฝง เพื่อเรียกมาด่า(555)
จากนั้นเขาก็ให้ดูวีดีโอ เหตุการณ์เครื่องบินตก Flight 123 เมื่อ 12 ส.ค 1985
ทำให้ผู้โดยสารเสียชีวิต 520 ศพ ผู้รอดชีวิต 4 ราย
ดูไปถึงตอนที่ มีการเก็บ Note ของผู้โดยสารที่เขียนสั่งเสียถึงครอบครัว คนรัก
ก่อนที่เครื่องบินจะโหม่งภูเขา........... ขนลุกซู่เลย....(ขี้แยอีกแล้ว)
ถึงยังไง วันนี้ก็เป็นการเทรนที่คุ้มค้าแหละ อิอิ
ได้ฝึกความเป็นกุลสตรีมากขึ้น ..... (ถ้าไม่ได้ทำอาชีพนี้ ชาตินี้คงไม่คิดจะฝึกแล้วแหละ)
พอกลับมาถึงบ้าน
เป็นไรไม่รู้ต้องเปิดคอมทุกทีที่เข้าห้อง
ก็ว่าจะเล่นเน็ท แต่แม่อยากฟังเสียงลุงสนธิ
ลูกที่ดี ก็เลยจัดให้ครับ
หนีไปเปิดทีวีดีกว่า
เปิดไปเจอ Fear Factor
ที่ใช้ปากคุ้ยหาเหรียญในจานหลายๆจานที่มีหนอนยั้วเยี้ยเต็มไปหมด
ต่อด้วยการดื่มน้ำทากปั่น แหวะ อี๋ๆๆๆๆ จะอ้วกตาม แต่ก็ยังดูอยู่ได้แฮะ พิลึกคน .......
พอดีแม่เดินมาเห็น พูดขึ้นมาลอยๆว่า "รายการที่ทำให้คนเป็นสัตว์"
(เราว่าสัตว์มันก็คงไม่คิดสั้นขนาดนี้นะเนี่ย)
เปลี่ยนช่องดีกว่า

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
โชคดีจริงๆที่วันนี้ท่านแม่อยากเล่นเน็ท
เลยได้ดู ซีรี่ส์ เรื่องโปรด
Gilmore Girls IV
เพิ่งจะซื้อ DVD Season 1 มาเก็บไว้เป็นที่ระลึก
อ้าว ใน UBC มัน Season 4 ซะแล้ว
ลูกสาวเพิ่งอยู่ม.ปลายหยก ๆ ตอนนี้เข้า Yale ไปซะแล้ว
(สอบติดทั้ง Harvard & Yale เด็กบ้าไร เก่งซะ)
ดูเรื่องนี้ทีไร จะปวดประสาทตามากๆ เพราะพูดกันเร็วสุดๆ แทบทุกคนในเรื่อง
อ่าน Sub แทบไม่ทัน (555 ไม่ได้ฟังอังกฤษเลยไม่ปวดหูแต่ปวดตาแทน)
สำหรับตอนที่ฉายวันนี้ ขอสรุปไว้ที่ ........
1. "ไม่ว่าเก่งหรือ(คิดว่า) แน่ ซักแค่ไหน อย่างน้อย ก็ขอใครซักคน ไว้คอยซับน้ำตา"
2. "ไม่มีสิ่งใดที่อยู่ภายใต้การควบคุมของคุณได้ทุกอย่าง "
วันนี้ขอปิดท้ายด้วย โลกนี้มันช่างยีสต์ เวปไดอารี่ขำๆ แต่แฝงสาระของ
ลูกชายคุณเสกสรรค์ ประเสิร์ฐกุล & คุณจิระนันท์ พิตรปรีชา
(ขอโฆษณาด้วยชื่อผู้ปกครองก่อน .. แต่ลูกชาย ต้องอ่านดูเองถึงจะรู้)
ช่วงนี้เป็นทั้ง Bloggophilia & Bibliophilia ....
ป.ล .. กลับไปอ่านที่ตัวเองเขียนมาทั้งหมด เป็นไรเนี่ย
ทำไมต้องเป็นพวก "นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า .............."
สงสัยตอนเด็กๆ แม่อ่านนิทานอีสปให้ฟังมากไปหน่อย
(โทษแม่อีกละ)
No comments:
Post a Comment