Jan 18, 2006

Solution

เคยอ่านบทสัมภาษณ์ของคุณ "ประภาส ชลศรานนท์"
พูดถึงการตอบจดหมายขอคำปรึกษา เรื่องความรัก และเรื่องอื่นๆ มากมาย
เขาบอกว่า
" การไขปัญหาโดยรู้โจทย์ไม่หมดเป็นเรื่องอันตราย"

เลยนึกขึ้นได้ว่า หลายครั้งที่ผ่านๆ มา
เคยให้คำปรึกษา และขอคำปรึกษาจากคนรอบตัวมากมาย .....
แต่ไม่เคยนึกเฉลียวใจว่า เรารู้โจทย์หรือเรื่องราวที่ผ่านมาของคนที่มาขอคำปรึกษาจากเรา

หรือ คนที่ให้คำปรึกษาเรา เขาจะรู้เรื่องราวของเรา ทุกด้านทุกมุมหรือไม่

ผลของการตัดสินใจในบางครั้ง อาจกลายเป็นความผิดพลาด
เพียงเพราะ เชื่อใจในคำแนะนำเหล่านั้น

ในทางกลับกัน
เราอาจจะเคยให้คำปรึกษา หรือฟันธง แทนคนอื่น ทั้งๆ ที่ไม่ได้รู้เรื่องราวของคนเหล่านั้นไปมากกว่าด้านเดียว

การตัดสินใจแก้ไขปัญหา ....
ไม่มีข้อสรุปตายตัว ว่าต้องทำยังไง
การเรียนรู้บริบท และเรื่องราวแวดล้อม เป็นสิ่งที่สำคัญในการช่วยตัดสินใจ / แก้ปัญหา

หลายตำรา บอกไว้ว่าเวลาอกหัก ... ให้ กินเยอะๆ
ออกไปชอปปิ้งใช้เงิน เพื่อลืมความเจ็บ

แต่ตำรานั้นไม่ได้พูดถึงวิธีแก้ปัญหาจากต้นตอ ...

ในบทสัมภาษณ์บอกว่า
........ หลายครั้งที่ผู้หญิงเขียนเข้ามาปรึกษาปัญหาหัวใจ
ว่าทำไม แฟนถึงเปลี่ยนไป ทำไมๆๆๆ

เขาบอกว่า " ผู้ชายคนนั้นไม่ได้เปลี่ยนไปหรอก แต่เพราะเรายังไม่ได้รู้จักคนๆ นั้นดี ก็เท่านั้นเอง"


การแก้ปัญหาที่ดีที่สุด ที่ไม่ได้ทำให้ปวดหัว คือการแก้ในสิ่งที่เราทำได้

สิ่งใดที่อยู่นอกเหนือความสามารถในการแก้ปัญหาของเรา ก็ช่างมัน

อย่าไปคิดมาก

เช่นเวลาจะสอบเข้า หรือหางาน ....... สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุด คือการเตรียมตัว
การอ่านหนังสือสอบ การเตรียมพร้อมสำหรับการสัมภาษณ์
โดยไม่ต้องคำนึงถึง ผู้เข้าแข่งขัน / แรงกดดันจากพ่อแม่ .....

เตรียมตัวให้พร้อมและดีที่สุด เท่าที่เราจะทำได้

..... อย่าไปกังวล ว่าต้องสอบเข้าให้ได้ๆๆๆๆๆๆ

ต้องได้เงินเดือนขึ้น ... ต้องได้เลื่อนตำแหน่ง

ได้ไม่ได้ช่างมัน ก็ทำดีที่สุดแล้วนี่ ..

เรื่องบางเรื่องเป็นเรื่องนอกเหนือขอบเขต ที่เราจะกำหนดได้

คิดมากไป ก็เครียด .......







มีอีกเยอะมาก เล่าได้ไม่หมด ....

แต่โดยส่วนตัว ชอบวิธีคิด วิธีมองโลก และมองปัญหาของผู้ชายคนนี้จริงๆ ...










เรื่องเล่าวันนี้ตัดทอน และสรุปเรื่องราวจากบทสัมภาษณ์ มาเป็นส่วนใหญ่ ......





ขอขอบคุณ นิตยสาร สุดสัปดาห์ ก.ย 2547
สำหรับคำถามและ บทสัมภาษณ์ดีๆ ที่น่าสนใจ...

2 comments:

Oakyman said...

ชอบเฉลียงมานานแล้ว
แต่ไม่เคยรู้จักพี่จิกมาก่อนเลย
จนกระทั่งตอนม.6 ได้ไปอ่านหนังสือ
ที่มีบทสัมภาษณ์ของพี่จิก

"เพลงเขียนคน ดนตรีเขียนโลก"

ได้แรงบันดาลใจอะไรๆ มากมาย
จนตอนเอนท์ก็เลือกถาปัดไว้อันดับนึงด้วย

(แต่ให้สอบยังไงคงไม่ติด คงตกตรงวาดรูปเนี่ยแหละ)

goldfish said...

“I pay no attention whatever to anybody's
praise or blame. I simply follow my own feelings.”

Wolfgang Amadeus Mozart ...

ใครจะพูดยังไง สุดท้ายก็ต้องเป็นตัวเองที่กลั่นกรองและตัดสินใจแหละน่ะ เราว่าน่ะ

ปล. เลิฟพี่จิกเช่นกัน