Apr 27, 2006

ฟางฝันของ ... จิระนันท์ พิตรปรีชา



ความทรงจำครั้งแรก เมื่อนึกถึงนาม “จิระนันท์ พิตรปรีชา”
เกิดขึ้นในโรงภาพยนต์ เมื่อเห็นคำนี้ขึ้นเมื่อใด
เป็นอันรู้กันว่า อีกสาม ถึงสี่วินาที หนังจะจบแล้ว ........

ความทรงจำถัดมา คือความประหลาดใจ
เมื่อสองสามปีที่แล้ว ตอนทราบว่า คุณเสกสรรค์ ประเสริฐกุล
คือ เพื่อนคู่ชีวิต ของเธอ

ท้ายสุด บังเอิญคลิกไปเจอของดี เวปไซต์สุดฮอตของ
ลูกชายทั้งสองของคุณจิระนันท์ แทนไท และ วรรณสิงห์

http://yeebud.storythai.com/?page=0551368&pnum=3&g=voip-phone

http://spaces.msn.com/wannasingh/


ตัวอักษรที่ถ่ายทอดออกมา กระแทกผู้อ่านคนนี้อย่างแรง
เป็นอีกครั้ง ที่กดย้อนเริ่มอ่านตั้งแต่ตอนแรก ตามอ่าน
แถมลามไปอ่านใน www.onopen.com จนถึงทุกวันนี้

หลายคน ให้ความสนใจสองหนุ่มนี้ ส่วนหนึ่งจากชื่อเสียงของบุพการีทั้งสอง
สำหรับเรา .............. แค่สงสัย
เกิดอยากรู้อยากเห็นผลงานของผู้ให้กำเนิด.......


มีเหตุให้ต้องเข้าร้านหนังสือ ณ สถานที่จัดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ
งานรวบรวมของรักของชอบ ( ในราคาสุดคุ้ม ) แต่ขี้เกียจไปเดิน เพราะคนเยอะพลุกพล่าน

สายตา(สั้นๆ) สองข้าง หยุดตะลึงที่หญิงสาวคนหนึ่ง กำลังจ้องมาทางเรา
หัวใจเต้นเป็นจังหวะ Prestissimo เหมือนเจอรักแรกพบ ( 555เว่อร์ไปละ )
เปิดหนังสือผ่านๆ ได้สองวืบ ก็แจ้นไปจ่ายเงิน
( กลัวคนอื่นแย่ง ไอ้งก แถมยังซื้อราคาเต็มอีก ตอนเขาลดราคา ก็ไม่ซื้อ สมน้ำหน้า)

ซื้อเสร็จ ยังเวียนว่ายตายเกิด อยู่ในร้านเขาต่อ
ยืนอ่านเล่มอื่นฟรี เรื่องราวของทราย เจริญปุระ และแม่
(ขออภัยจำชื่อหนังสือไม่ได้...... ต่อมความจำวิสามานยนาม หยุดทำงานชั่วคราว
หลังสมองถูกกระทบกระเทือนเพราะนอนหลับมากไป)

Wanted !
ใครพบเห็นหรือครอบครองหนังสือ “ทราย เจริญปุระ”เล่มนี้
โปรดแจ้งความจำนงให้เจ้าของบล็อค ยืมอ่านด่วน จักเป็นพระคุณอย่างยิ่ง


นอกเรื่องอยู่เรื่อย เจ้าแม่ขี้เบื่อ จอมเปลี่ยนเรื่อง ................
กลับมาที่ หนังสือชื่อ “อีกหนึ่งฟางฝัน บันทึกแรมทางของชีวิต” จิระนันท์ พิตรปรีชา

ซื้อเสร็จ ก็เก็บไว้รออ่านที่บ้าน
ตอนเย็น กระดี๊กระด๊า หัวใจลดความเร็วลงมาที่จังหวะ Vivace
รีบเคลียร์งาน กลับไปอ่านที่บ้าน แต่อดใจไม่ไหว
เลยแอบชิมอ่าน บนรถไปพลางๆ บนที่นั่งคนขับ ช่วงที่ล้อหยุดหมุน......

(คำเตือน : ความสามารถเฉพาะตัวห้ามเลียนแบบ เป็นอันตรายถึงชีวิต)


เมื่อสิบปีที่แล้ว "อีกหนึ่งฟางฝัน" ตีพิมพ์ครั้งแรก
ในนิตยสารแพรว ระหว่างปี 2538-2539
เธอบอกว่า เธอรออีกสิบปี กว่าจะรวมเล่มอีกครั้ง
เพื่อแช่ต้นฉบับไว้ให้นิ่งสำหรับการ "ตกตะกอน"
ในแง่ของอารมณ์ความรู้สึกและ แง่มุมทางประวัติศาสตร์



เรื่องราวของเธอเอง ผ่านภาษาสวยๆ
บอกเล่าเรื่องราวสองข้างทางของชีวิต
ผ่านเรื่องราวบนเส้นทางแห่งการต่อสู้เพื่อมวลชนตั้งแต่วัยแห่งอุดมศึกษา
เต็มไปด้วยอุดมการณ์แรงกล้า เพื่อส่วนรวม........

สุดยอดเจ้าแม่การใช้ภาษา ของเด็กเรียนเภสัชอย่างคุณจิระนันท์
ผลงานส่วนใหญ่ที่ออกสู่สาธารณะ เป็นวรรณกรรมที่งดงาม
จัดอยู่ในประเภทร้อยกรอง บทกวีนิพนธ์

จะว่าไปแล้ว ตัวเราเองก็ถนัดเสพวรรณกรรมร้อยแก้วเพียงอย่างเดียว
ร้อยกรองที่เคยข้องแวะ จึงมีแต่ในตำราเรียน และวรรณคดีไทย วิชาบังคับสมัยปี 1


บนหน้าหนังสือเล่มนี้ มิได้มีเพียงชีวประวัติของตัว เอง หากแวดล้อมไปด้วย
เหตุการณ์สำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ และเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
ที่เธอเป็นประจักษ์พยาน พบพานด้วยตนเอง

อีกมุมหนึ่ง
อีกแง่มุมหนึ่งของความรัก ...
ความจริงใจปราศจากการปรุงแต่ง ของคู่รักคู่นี้
ความอบอุ่นของสองคน ที่เคียงข้าง ไม่แยกจากกัน
ในช่วงมรสุมของชีวิตเพื่อมวลชน

เธอกล่าวไว้ในหนังสือว่า “ช่วยไม่ได้ที่ฉันเกิดมาเพื่อจะเขียนมากกว่าพูด”
และช่วยไม่ได้เหมือนกันที่ฉันอยากบอกเธอว่า
ขอบคุณที่เธอเกิดมาเพื่อจะเขียน
....ให้คนที่ชอบอ่านมากกว่าฟัง.........


บอกไว้ก่อนว่ายังอ่านไม่จบ เหลือความหนาอีกประมาณเซนต์ครึ่ง
เจ้าของบล็อคดันทุรนทุราย กินได้ นอนไม่หลับ
อยากเขียนถึงหนังสือที่กำลังตกหลุมรักเล่มนี้ให้ได้
ก่อนอารมณ์นี้ จางไป

2 comments:

Anonymous said...

ดิฉันเองติดตามผลงานของวรรณสิงห์อยู่

เขาจุดประกายบางอย่างที่เก็บไว้นานมาก

และเขาดีมากที่ทำให้ดิฉันค้นพบว่าตัวเอง

อยากได้ อยากเป็น อยากใช้ชีวิต อย่างไร

Sayo said...

:)

เราชอบผลงานของ ทั้งพี่ทั้งน้อง พ่อ และแม่ ตระกูลนี้