
ความทรงจำครั้งแรก เมื่อนึกถึงนาม “จิระนันท์ พิตรปรีชา”
เกิดขึ้นในโรงภาพยนต์ เมื่อเห็นคำนี้ขึ้นเมื่อใด
เป็นอันรู้กันว่า อีกสาม ถึงสี่วินาที หนังจะจบแล้ว ........
ความทรงจำถัดมา คือความประหลาดใจ
เมื่อสองสามปีที่แล้ว ตอนทราบว่า คุณเสกสรรค์ ประเสริฐกุล
คือ เพื่อนคู่ชีวิต ของเธอ
ท้ายสุด บังเอิญคลิกไปเจอของดี เวปไซต์สุดฮอตของ
ลูกชายทั้งสองของคุณจิระนันท์ แทนไท และ วรรณสิงห์
http://yeebud.storythai.com/?page=0551368&pnum=3&g=voip-phone
http://spaces.msn.com/wannasingh/
ตัวอักษรที่ถ่ายทอดออกมา กระแทกผู้อ่านคนนี้อย่างแรง
เป็นอีกครั้ง ที่กดย้อนเริ่มอ่านตั้งแต่ตอนแรก ตามอ่าน
แถมลามไปอ่านใน www.onopen.com จนถึงทุกวันนี้
หลายคน ให้ความสนใจสองหนุ่มนี้ ส่วนหนึ่งจากชื่อเสียงของบุพการีทั้งสอง
สำหรับเรา .............. แค่สงสัย
เกิดอยากรู้อยากเห็นผลงานของผู้ให้กำเนิด.......
มีเหตุให้ต้องเข้าร้านหนังสือ ณ สถานที่จัดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ
งานรวบรวมของรักของชอบ ( ในราคาสุดคุ้ม ) แต่ขี้เกียจไปเดิน เพราะคนเยอะพลุกพล่าน
สายตา(สั้นๆ) สองข้าง หยุดตะลึงที่หญิงสาวคนหนึ่ง กำลังจ้องมาทางเรา
หัวใจเต้นเป็นจังหวะ Prestissimo เหมือนเจอรักแรกพบ ( 555เว่อร์ไปละ )
เปิดหนังสือผ่านๆ ได้สองวืบ ก็แจ้นไปจ่ายเงิน
( กลัวคนอื่นแย่ง ไอ้งก แถมยังซื้อราคาเต็มอีก ตอนเขาลดราคา ก็ไม่ซื้อ สมน้ำหน้า)
ซื้อเสร็จ ยังเวียนว่ายตายเกิด อยู่ในร้านเขาต่อ
ยืนอ่านเล่มอื่นฟรี เรื่องราวของทราย เจริญปุระ และแม่
(ขออภัยจำชื่อหนังสือไม่ได้...... ต่อมความจำวิสามานยนาม หยุดทำงานชั่วคราว
หลังสมองถูกกระทบกระเทือนเพราะนอนหลับมากไป)
Wanted !
ใครพบเห็นหรือครอบครองหนังสือ “ทราย เจริญปุระ”เล่มนี้
โปรดแจ้งความจำนงให้เจ้าของบล็อค ยืมอ่านด่วน จักเป็นพระคุณอย่างยิ่ง
นอกเรื่องอยู่เรื่อย เจ้าแม่ขี้เบื่อ จอมเปลี่ยนเรื่อง ................
กลับมาที่ หนังสือชื่อ “อีกหนึ่งฟางฝัน บันทึกแรมทางของชีวิต” จิระนันท์ พิตรปรีชา
ซื้อเสร็จ ก็เก็บไว้รออ่านที่บ้าน
ตอนเย็น กระดี๊กระด๊า หัวใจลดความเร็วลงมาที่จังหวะ Vivace
รีบเคลียร์งาน กลับไปอ่านที่บ้าน แต่อดใจไม่ไหว
เลยแอบชิมอ่าน บนรถไปพลางๆ บนที่นั่งคนขับ ช่วงที่ล้อหยุดหมุน......
(คำเตือน : ความสามารถเฉพาะตัวห้ามเลียนแบบ เป็นอันตรายถึงชีวิต)
เมื่อสิบปีที่แล้ว "อีกหนึ่งฟางฝัน" ตีพิมพ์ครั้งแรก
ในนิตยสารแพรว ระหว่างปี 2538-2539
เธอบอกว่า เธอรออีกสิบปี กว่าจะรวมเล่มอีกครั้ง
เพื่อแช่ต้นฉบับไว้ให้นิ่งสำหรับการ "ตกตะกอน"
ในแง่ของอารมณ์ความรู้สึกและ แง่มุมทางประวัติศาสตร์

เรื่องราวของเธอเอง ผ่านภาษาสวยๆ
บอกเล่าเรื่องราวสองข้างทางของชีวิต
ผ่านเรื่องราวบนเส้นทางแห่งการต่อสู้เพื่อมวลชนตั้งแต่วัยแห่งอุดมศึกษา
เต็มไปด้วยอุดมการณ์แรงกล้า เพื่อส่วนรวม........
สุดยอดเจ้าแม่การใช้ภาษา ของเด็กเรียนเภสัชอย่างคุณจิระนันท์
ผลงานส่วนใหญ่ที่ออกสู่สาธารณะ เป็นวรรณกรรมที่งดงาม
จัดอยู่ในประเภทร้อยกรอง บทกวีนิพนธ์
จะว่าไปแล้ว ตัวเราเองก็ถนัดเสพวรรณกรรมร้อยแก้วเพียงอย่างเดียว
ร้อยกรองที่เคยข้องแวะ จึงมีแต่ในตำราเรียน และวรรณคดีไทย วิชาบังคับสมัยปี 1
บนหน้าหนังสือเล่มนี้ มิได้มีเพียงชีวประวัติของตัว เอง หากแวดล้อมไปด้วย
เหตุการณ์สำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ และเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
ที่เธอเป็นประจักษ์พยาน พบพานด้วยตนเอง
อีกมุมหนึ่ง
อีกแง่มุมหนึ่งของความรัก ...
ความจริงใจปราศจากการปรุงแต่ง ของคู่รักคู่นี้
ความอบอุ่นของสองคน ที่เคียงข้าง ไม่แยกจากกัน
ในช่วงมรสุมของชีวิตเพื่อมวลชน
เธอกล่าวไว้ในหนังสือว่า “ช่วยไม่ได้ที่ฉันเกิดมาเพื่อจะเขียนมากกว่าพูด”
และช่วยไม่ได้เหมือนกันที่ฉันอยากบอกเธอว่า
ขอบคุณที่เธอเกิดมาเพื่อจะเขียน
....ให้คนที่ชอบอ่านมากกว่าฟัง.........
บอกไว้ก่อนว่ายังอ่านไม่จบ เหลือความหนาอีกประมาณเซนต์ครึ่ง
เจ้าของบล็อคดันทุรนทุราย กินได้ นอนไม่หลับ
อยากเขียนถึงหนังสือที่กำลังตกหลุมรักเล่มนี้ให้ได้
ก่อนอารมณ์นี้ จางไป
2 comments:
ดิฉันเองติดตามผลงานของวรรณสิงห์อยู่
เขาจุดประกายบางอย่างที่เก็บไว้นานมาก
และเขาดีมากที่ทำให้ดิฉันค้นพบว่าตัวเอง
อยากได้ อยากเป็น อยากใช้ชีวิต อย่างไร
:)
เราชอบผลงานของ ทั้งพี่ทั้งน้อง พ่อ และแม่ ตระกูลนี้
Post a Comment